ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ บุคคลสำคัญ ประเทศและทวีป >>
ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ

เป็นสนามบินตั้งอยู่ที่ ถนนบางนาตราด ใน จังหวัดสมุทรปราการ กำหนดเปิดใช้งานวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 และมีกำหนดการใช้งานแทนท่าอากาศยานกรุงเทพที่ดอนเมืองหลังดำเนินการระยะหนึ่ง โดยนโยบายรัฐบาลได้กำหนดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศ และจะเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์
ชื่อของสนามบินสุวรรณภูมิ มีความหมายว่า "แผ่นดินทอง" เป็นชื่อพระราชทานโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2543 และเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2545
สถาปนิกผู้ออกแบบอาคาร คือ เฮลมุต จาห์น ชาวอเมริกัน-เยอรมัน และบริษัทเมอร์ฟีจาห์นสำนักงานใหญ่ที่ชิคาโก ซึ่งแบบอาคารสนามบินได้ถูกปรับเปลี่ยน ขนาดอาคาร และวัสดุจากแบบเดิมไปในหลายส่วน เช่นเพิ่มการประดับยักษ์ และสถาปัตยกรรมไทยเพิ่มเข้าไปโดยสถาปนิกชาวไทย
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญต่อการส่งเสริมและพัฒนาความเจริญด้านเศรษฐกิจ สังคม การท่องเที่ยว และด้านอื่นๆ ของประเทศเป็นอย่างมาก รัฐบาลจึงกำหนดให้การก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นวาระแห่งชาติ โดยเป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศ และเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค
ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติขนาดใหญ่ ที่มีความสำคัญต่อการส่งเสริมและพัฒนาความเจริญด้านเศรษฐกิจ สังคม การท่องเที่ยว และด้านอื่นของประเทศเป็นอย่างมาก รัฐบาลจึงกำหนดให้ (การก่อสร้าง) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องร่วมกันดำเนินการแบบบูรณาการ เพื่อให้สำเร็จตามเป้าหมาย
ได้มีการเปิดทดลองใช้สนามบิน ในเช้าวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 มีผู้โดยสารจากสายการบินภายในประเทศ 6 สายการบิน ได้แก่ การบินไทย บางกอกแอร์เวย์ โอเรียนไทย นกแอร์ ไทยแอร์เอเชีย และพีบี.แอร์ โดยมีจำนวนผู้โดยสาร 4,800 คน จาก 24 เที่ยวบิน โดยรักษาการณ์นายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ได้เดินทางจากสนามบินดอนเมืองมายังสนามบินสุวรรณภูมินี้
นอกจากนี้ได้มีกิจกรรม รวมทั้งการแจกประกาศนียบัตรและบัตรโดยสารที่ระลึกแก่ผู้ร่วมเที่ยวบิน จัดให้มีการนำผู้สนใจเข้าทัวร์ในบริเวณสนามบิน โดยมัคคุเทศก์อาสาสมัครจากมหาวิทยาลัยต่างร่วมกับการท่าอากาศยานและรถรถโดยสาร ขสมก. ได้มีเส้นทางพิเศษเพื่อเข้าชมสนามบินและสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียง
นอกจากนี้รัฐบาลคาดว่าจะได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางอากาศ ภายใต้มาตรฐานนานาชาติที่ออกโดย องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และ องค์การการบินพลเรือนสากล เพื่อเปิดใช้ในทางพาณิชย์อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 28 กันยายน 2549 นี้ (เริ่มย้ายและให้บินขึ้นลงได้ตั้งแต่ 15 กันยายน) และกำหนดให้วันที่ 1 กันยายน เป็นวันแรกของการทดลองบินของสายการบินจากต่างประเทศ
การคมนาคม
การเข้าถึงสนามบินสุวรรณภูมิสามารถเข้าถึงได้โดยทางรถยนต์ รถโดยสารประจำทาง ของ ขสมก. 6 สาย ในอนาคตมีแผนก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าจากบริเวณสถานีมักกะสันมายังสนามบินในชื่อ แอร์พอร์ตเรลลิงก์ (Airport Rail Link) ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ท่าอากาศยานมีทางเข้าออกทั้งหมด 6 เส้นทางคือ
- ทิศเหนือ เป็นถนนยกระดับขนาด 8 ช่องจราจร จากถนนกรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่ เข้าสู่อาคารผู้โดยสาร
- ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นถนนขนาด 6 ช่อง เชื่อมกับทางยกระดับจากถนนร่มเกล้าและถนนกิ่งแก้ว
- ทิศใต้ เป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจร เชื่อมกับถนนบางนา-ตราด และทางด่วนบูรพาวิถี
- ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจร เชื่อมกับถนนอ่อนนุช
- ทิศตะวันตก เป็นถนนขนาด 4 ช่องทางจราจร เชื่อกับถนนกิ่งแก้ว
- รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายพญาไท มักกะสัน สุวรรณภูมิ วิ่งเข้าสู่อาคารผู้โดยสาร มีสถานีรถไฟฟ้าใต้อาคารผู้โดยสาร
สำหรับที่จอดรถ ในบริเวณใกล้ส่วนอาคารผู้โดยสาร จะเป็นเพียงอาคารที่จอดรถระยะสั้น 2 อาคาร จุได้ 5000 คัน บริหารงานโดยบริษัทที่ได้รับสัมปทานในการจัดเก็บค่าจอดรถในราคาต่อชั่วโมง ส่วนบริเวณจอดรถระยะยาว จะเป็นลานกว้างอยู่ห่างออกไป ใกล้กับบริเวณที่จอดรถบัส และที่จอดรถแท็กซี่สาธารณะ (402 คัน) บริเวณให้บริการเช่ารถยนต์ (408 คัน) ผู้โดยสารในบริเวณนี้สามารถเดินทางเข้าสู่อาคารผู้โดยสาร โดยรถบริการภายในสนามบินผ่านทางชัตเติลบัสอีกทอดหนึ่ง
ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ มีพื้นที่ประมาณ 20,000 ไร่ ตั้งอยู่ที่ ประมาณถนนบางนาตราดกิโลเมตรที่ 15 อยู่ในเขตตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร ประกอบไปด้วยส่วนหลัก ได้แก่
ระบบทางวิ่ง ทางขับ และลานจอดอากาศยาน
ทางวิ่ง มี 2 เส้น กว้างเส้นละ 60 เมตร ยาว 3,700 เมตร และ 4,000 เมตร ห่างกัน 2,200 เมตร มีทางขับขนานกับทางวิ่งทั้ง 2 เส้น ให้บริการขึ้น-ลง ของอากาศยานได้พร้อมกัน และเมื่อพัฒนาจนสมบูรณ์แล้ว จะมีทางวิ่งทั้งหมด 4 เส้น เป็นทางวิ่งข้างละ 2 เส้นขนานกัน และมีหลุมจอดอากาศยาน มีจำนวน 120 หลุมจอด (จอดประชิดอาคาร 51 หลุมจอด และจอดระยะไกลอีก 69 หลุมจอด) รวมถึงหลุมจอดอากาศยานขนาดใหญ่ไว้ด้วย จำนวน 5 หลุมจอด
อาคารผู้โดยสาร
อาคารผู้โดยสารเป็นอาคารเดี่ยว ช่วงกว้าง ไม่มีเสากลางอาคาร มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 563,000 ตร.ม. มี 8 ชั้น รวมชั้นใต้ดิน อยู่ทางทิศเหนือของท่าอากาศยาน รองรับผู้โดยสารได้ 45 ล้านคนต่อปี ภายในอาคารมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น จุดตรวจบัตรโดยสาร 360 จุด จุดตรวจหนังสือเดินทาง ขาเข้า 124 จุด / ขาออก 72 จุด โดยมีระบบรักษาความปลอดภัยแบบ 100% Hold Baggage In-line Screening System นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนอยู่ใต้อาคาร
อาคารท่าเทียบเครื่องบิน
อาคารท่าเทียบเครื่องบิน หรือคอนคอร์ส มีท่าเทียบ 51 จุด 5 จุดสามารถรอรับเครื่องบินขนาดใหญ่ เช่น Airbus A-380 ได้ ลักษณะสถาปัตยกรรมทันสมัย หลังคารูปโค้งกรุผ้าใบสลับกระจกโค้ง นอกจากการจอดเทียบท่าแล้วสามารถจอดที่ท่ากลางลานได้ รวมแล้วสามารถรองรับเครื่องบินได้ราว 120 ลำ
งานศิลปะภายในสนามบิน
ได้มีการติดตั้งผลงานศิลปะไทย ทั้งจิตรกรรมและประติมากรรม ประดับหลายชิ้นภายในและภายนอกอาคารของสนามบินสุวรรณภูมิ มูลค่ารวมกันทั้งสิ้นกว่า 100 ล้านบาท เช่น ประติกรรมจำลองยักษ์จากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม จำนวน 12 ชิ้น ประติมากรรมนารายณ์กวนเกษียรสมุทร มูลค่า 48 ล้านบาท ภาพจิตรกรรมฝาผนังจำลอง ของศิลปินที่มีชื่อเสียงของไทย
งานภูมิทัศน์
งานออกแบบภูมิทัศน์โดยรอบสนามบิน และภายในส่วนเปิดโล่งของสนามบิน นั้นมีลักษณะเป็นไทย เดิมออกแบบโดย ปีเตอร์ วอล์คเกอร์ (Peter Walker) ภูมิสถาปนิกชาวอเมริกัน นับเป็นงานภูมิสถาปัตยกรรมภายในสนามบินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แบบเดิมนั้นมีแนวความคิดหลักสองแนวคิด คือสวน "เมือง" (city) เป็นสวนน้ำพุ ประดับด้วยกระเบื้อง ประติมากรรมรูปทรงเจดีย์ และน้ำพุ และสวน "ชนบท" (country) ใช้หญ้าท้องถิ่น และต้นไม้ตัดแต่ง (topiary) รูปฝูงช้าง ต่อมาเพื่อให้สอดคล้องกับงบประมาณได้มีการเปลี่ยนแปลงแบบใหม่ และให้ภูมิสถาปนิกไทยปรับแบบ แต่ยังคงแนวคิดเมืองและชนบทอยู่
อาคารจอดรถ
อาคารจอดรถมี 2 อาคาร แต่ละอาคารสูง 5 ชั้น เชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสาร สามารถรองรับรถยนต์ได้ถึง 5,000 คัน นอกจากนี้ยังมีที่จอดรถบริเวณอื่นๆ รวมทั้งหมดกว่า 15,677 คัน
ระบบสาธารณูปโภค
- ระบบป้องกันน้ำท่วม มีการสร้างเขื่อนดินสูง 3.5 เมตร กว้าง 70 เมตร โดยรอบพื้นที่ท่าอากาศยาน และมีอ่างเก็บน้ำภายใน 6 แห่ง ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้ 3.2 ล้านลูกบาศก์เมตร
- ระบบน้ำประปา เชื่อมต่อกับระบบประปาของการประปานครหลวง และมีถังน้ำประปาสำรองขนาด 40,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งสามารถสำรองน้ำประปาไว้ใช้ได้ 2 วัน
- สถานีแปลงไฟฟ้าย่อย เป็นสถานีแปลงไฟฟ้าเพื่อลดแรงดันไฟฟ้าจาก 115 กิโลโวลต์ ให้เหลือ 24 กิโลโวลต์ มีจำนวน 2 สถานี เพื่อจ่ายไฟฟ้าให้แก่ทุกระบบภายในท่าอากาศยาน
- ระบบบำบัดน้ำเสีย สามารถบำบัดน้ำเสียได้ 16,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ระบบจัดเก็บกากของเสีย สามารถกำจัดกากของเสียได้ประมาณ 100 ตันต่อวัน
ระบบบริการคลังสินค้า
คลังสินค้ามีพื้นที่ให้บริการประมาณ 568,000 ตารางเมตร และมีการให้บริการแบบเขตปลอดพิธีการศุลกากร (Free Zone) ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ซึ่งรองรับสินค้าได้ 3 ล้านตันต่อปี
ระบบอื่นๆ
- ระบบโภชนาการ - ระบบโภชนาการสามารถผลิตอาหาร ให้แก่สายการบินต่างๆ ได้ 100,000 ชุดต่อวัน
- โรงซ่อมบำรุงอากาศยาน - โรงซ่อมบำรุงอากาศยานมีจำนวน 2 โรง สามารถจอดอากาศยานขนาดใหญ่ เช่น แอร์บัส เอ 380 ได้
- ศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ - ศูนย์ควบคุมฯ มีหอบังคับการบินที่สูงที่สุดในโลก (132.2 เมตร) ที่พร้อมไปด้วยระบบวิทยุสื่อสารการบิน ระบบติดตามอากาศยานเขตประชิดสนามบินและระบบติดตามอากาศยานภาคพื้นดิน รวมทั้งระบบนำร่องอากาศยานที่ทันสมัย
- โรงแรมและบริการ - โรงแรมตั้งอยู่ด้านหน้าอาคารผู้โดยสาร ในระยะแรกมีจำนวน 600 ห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ นอกจากนี้ภายในท่าอากาศยาน จะมีการบริการต่างๆ มากมาย เช่น ศูนย์บริการรถเช่า ร้านค้า ภัตตาคาร สถานีเติมน้ำมัน ฯลฯ
ความเป็นที่สุดของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
- อาคารผู้โดยสาร (MAIN TERMINAL) ซึ่งจะมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 563,000 ตารางเมตร ซึ่งใหญ่กว่าสนามบินของฮ่องกง ประมาณ 10,000 ตารางเมตร
- หอวิทยุการบินที่สูงที่สุดในโลกด้วยความสูงถึง 132 เมตร ซึ่งสูงกว่าหอวิทยุการบินของมาเลเซียถึง 10 เมตร
- โรงแรมที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของสนามบิน ที่มีห้องพักถึง 600 ห้อง ซึ่งบริเวณล็อบบี้ของโรงแรมถือว่าใหญ่ที่สุดในโลกเลย เนื่องจากด้านล่างของล็อบบี้โรงแรม เป็นสถานีรถไฟ Airport Link
ข้อมูลโครงสร้างและสถาปัตยกรรม
การออกแบบสนามบินสุวรรณภูมิ
ประติมากรรมรูปยักษ์ (GIANT SCULPTURES)
ความหมายของการกวนเกษียรสมุทร
ศูนย์การขนส่งสาธารณะ (Public Transportation Center)
ระบบสายพานลำเลียง
หลังคาผาใยสังเคราะห์ (FABRIC MEMBRANE ROOF)
ข้อมูลจาก
http://www.bangkokbiznews.com/2006/special/suwannapum



ค้นหาข้อมูล คลิก!


