ศิลปะ หัตถกรรม สถาปัตยกรรม ประติมากรรม สันทนาการ >>
แหล่งท่องเที่ยวโปแลนด์
กรุงวอร์ซอร์
ย่านเมืองเก่าของกรุงวอร์ซอว์ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศโปแลนด์ ซึ่งเมืองนี้องค์กรยูเนสโก (United Nations Education Scientific and Culture Organization) มีการประกาศให้เป็นมรดกโลก ซึ่งมีแหล่งสถาปัตยกรรมต่างๆ มากมายในกรุงวอร์ซอร์ที่ได้สร้างขึ้นในราวปลาย ศตวรรษที่13และเนื่องจาก ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สถาปัตยกรรมต่างๆ เกิดความเสียหาย อย่างมาก แต่หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ได้ถูกบูรณะจนเสร็จสมบูรณ์ จนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวในปัจจุบัน
พระราชวังลาเซียนกี้
เป็นพระราชวังที่ตั้งอยู่ในกรุงวอร์ซอว์ ซึ่งเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์และเป็นพระราชวังทางประวัติศาสตร์ ที่มีสวนอันงดงามล้อมรอบ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองวอร์ซอว์ ในปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่เดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจสำหรับประชาชนทั่วไป และนอกจากนี้เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติเมื่อมาถึงโปแลนด์ (พระราชวังแห่งนี้ได้เคยเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 5 ของไทย เมื่อครั้งเสด็จประพาสวอร์ซอว์
จัตุรัสเมืองเก่า
ได้มีการสร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 เป็นที่ตั้งบ้านเรือน โบสถ์ และพระราชวังหลวง (Royal Castle) ที่ภายในมีการตกแต่งอย่างงดงามด้วยศิลปวัตถุ และเครื่องประดับเก่าแก่อันเป็นสมบัติล้ำค่าของเมืองวอร์ซอร์ ภายในมีภาพเขียนที่สำคัญคือ ภาพกรุงวอร์ซอ 22 มุมมอง โดยจิตรกรเอกชาวอิตาเลียน เบอร์นาโด คานาเล็ตโต มีความคิดที่จะใช้เป็นต้นแบบในการบูรณะกรุงวอร์ซอจนกลับมาเป็นเมืองหลวงที่สวยงาม และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามมาก จุดหนึ่งของประเทศโปแลนด์ ด้วยสีสันของตึกในแบบยุโรปตะวันออกแท้ๆซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านรวงเล็กๆ ซึ่งเป็นร้านขายของที่ระลึก และยังมีรถม้าคอยอำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยว และยังมีจิตรกรให้ผู้ที่มีความสามารถในการวาดภาพเหมือนอีกด้วย เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่สนใจ แวะเข้ามาใช้บริการ

เมืองเชสโตโชว่า
เป็นเมืองศูนย์กลางของผู้แสวงบุญที่สำคัญแห่งหนึ่งของยุโรป คริสต์ศาสนิกชนกว่า 4-5 ล้านคน เข้าบูชาเพื่อขอพรจากแบล็คมาดอนน่า(Black Madonna) ณ อารามจัสนา กอร่า(Jasna Góra Monastery) รูปพระแม่มาเรียสีดำ ศูนย์รวมจิตใจของชาวคาทอลิก กล่าวกันว่าสีที่ใช้วาดมานานกว่า 600 ปีทำให้รูปพระแม่เป็นสีดำ ที่รอยบากที่พระพักตร์ ซึ่งพวกต่อต้านศาสนาต้องการทำลาย อารามแห่งนี้รอดพ้นจากการถูกทำลายในสงครามต่างๆอย่างน่าอัศจรรย์ จนกลายเป็นปาฎิหารย์ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด
พิพิธภัณฑ์ค่ายกักกันค่ายออสวิทซ์
ซึ่งเป็นที่ตั้งของค่ายกักกันชาวยิวที่มีชื่อเสียงก้องโลก ค่ายกักกันชาวยิวที่ฮิตเลอร์ และเหล่านาซี ทำทารุณกรรมกับชาวยิว และชาวโปล อย่างโหดเหี้ยมด้วยมาตรการสารพัด เพื่อกำจัดชาวยิวให้หมดยุโรปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ความต้องการจะหาค่ายกักกันเชลยศึกต่างๆ จนมาพบสถานที่ที่รัฐบาลโปแลนด์ต้องการก่อสร้างเป็นสถานที่คุม ขังนักโทษการเมืองจึงได้ดัดแปลงตามความต้องการของนาซี และเริ่มต้นใช้ในช่วงมิถุนายน 1940 เป็นต้นมา ซึ่งปัจจุบันดูแลโดยรัฐบาลของโปแลนด์ ซึ่งเริ่มจากเยอรมันเข้ายึดโปแลนด์ได้ในปลายปี พ.ศ.2482
เหมืองเกลือวิลิซกา
เป็นเหมืองเกลือที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดของโปแลนด์ ซึ่งอยู่ทางภาคใต้ของโปแลนด์ ณ เมืองวิลิซกา และเป็นเหมืองใต้ดินที่มหัศจรรย์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จนทำให้รัฐบาลโปแลนด์ ประกาศให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเมื่อปี พ.ศ.2537ภายในเหมืองจะมีลิฟท์ซึ่งจะลงลึกถึงชั้นใต้ดินของเหมือง โดยชั้นที่ลึกที่สุดจะลึกถึง 327 เมตร ที่มาของเหมืองนี้เกิดจาก ในสมัยก่อนเกลือนั้นเกิดตามธรรมชาติมาประมาณ 20 ล้านปี เกลือมีค่าดุจทองคำ เพราะใช้ในการถนอมรักษาอาหารมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ในเหมืองเก่าแก่ชั้นใต้ดินจะประกอบไปด้วย แกลอรี่และห้องต่างๆ ซึ่งสร้างและแกะสลักจากเกลือทั้งหมด ความงามของทะเลเกลือใต้พิภพ ซึ่งจะทำให้เหมืองแห่งนี้กลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยว และนอกจากนี้เหมืองเกลือในเมืองเวียลิซก้าถือว่าจัดเป็นหนึ่งในมรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติขององค์การยูเนสโก้อีกด้วย