เทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ วิศวกรรม เกษตรศาสตร์ >>
ปทุมมา
ปทุมมา (Curcuma spp.)เป็นไม้ดอกเมืองร้อน ที่มีมูลค่าการส่งออกประมาณ 15-30 ล้านบาทต่อปี โดยประเทศไทยส่งออกปทุมมาในรูปของหัวพันธุ์ ไปยังต่างประเทศ ซึ่งชาวต่างประเทศโดยเฉพาะ เนเธอร์แลนด์ จะรู้จักปทุมมาเป็นอย่างดี จนกระทั่งมีการขนานนามความสวยงามของดอกปทุมมา ซึ่งมีลักษณะคล้ายดอกทิวลิป ว่า สยามทิวลิป (Siam of Tulip)
สถานการณ์การผลิต
พื้นที่ปลูกปทุมมาเพื่อผลิตหัวพันธุ์เพื่อการส่งออก มีพื้นที่ประมาณ 400 ไร่
ซึ่งสามารถผลิตหัวพันธุ์เพื่อการส่งออก ไปต่างประเทศ ปีละไม่ต่ำกว่า 2 ล้านหัวต่อปี
แหล่งปลูกอยู่ในบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และลำพูน
หัวพันธุ์ที่นิยมปลูกเป็นการค้า ได้แก่ พันธุ์เชียงใหม่พิงค์ มีทั้งสีชมพูอ่อน
และสีชมพูเข้ม
ช่วงเวลาการผลิตหัวพันธุ์เกษตรกรจะเริ่มเตรียมพื้นที่เดือน มี.ค. ปลูกเดือน เม.ย.-
พ.ค. ออกดอกเดือน ก.ค.- ส.ค. หลังจากนั้น ต้นจะเหี่ยวหัวจะพักตัวเดือน พ.ย.- ธ.ค.
เริ่มขุดหัวพันธุ์ ในช่วงเดือน ธ.ค.- ก.พ. เริ่มส่งออกส่งหัวพันธุ์ตั้งแต่เดือน
ม.ค.- มี.ค. ซึ่งต่างประเทศจะนำ หัวพันธุ์ปทุมมาปลูก
เพื่อผลิตเป็นไม้กระถางให้ออกดอกเดือน พ.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่ตรงกับวันแม่
ในต่างประเทศ
การผลิตหัวพันธุ์ในปัจจุบันยังเป็นการผลิตในระบบลูกไร่ของผู้ส่งออกและผู้ส่งออกบางราย
จะมีแหล่งผลิตเป็นของตนเอง แต่ละปีเกษตรกรที่ผลิตเอง จะส่งให้กับผู้ส่งออก
ต้นทุนการผลิตปทุมมา ต่อไร่ ประมาณ 40,320 บาท ผลผลิตจำนวน 723 กิโลกรัม
รายได้ประมาณ 57,208 บาท กำไรประมาณ 16,888 บาท
สถานการณ์การตลาด
พ.ศ. 2536 เริ่มมีการส่งอออกหัวพันธุ์ไปต่างประเทศ พ.ศ. 2540 ประเทศเนเธอร์แลนด์
ระงับการนำเข้าหัวพันธุ์จากประเทศไทย เนื่องจากปัญหา การระบาดของโรคหัวเน่า
ซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ทำให้ประเทศไทย ต้องมีมาตรการเข้มงวดในการควบคุมโรค
โดยกำหนดมาตรการให้คำแนะนำ วิธีปฏิบัติในแปลงปลูก เพื่อป้องกันการเกิดโรค
และมาตรการทางด้านการกักกันพืช ก่อนส่งหัวพันธุ์ออกไปที่ประเทศเนเธอร์แลนด์
ต้องผ่านการตรวจรับรองหัวพันธุ์ ปลอดโรคด้วยวิธี ELISA และ DIBA
ราคาหัวพันธุ์ที่เกษตรกรขายให้กับบริษัทผู้ส่งออกประมาณหัวละ 3-5 บาท
ในขณะที่ผู้ส่งออกจะขายให้กับต่างประเทศในราคา F.O.B ประมาณหัวละ 8-10 บาท
ผลผลิตปทุมมาส่วนใหญ่จะเป็นการผลิตหัวพันธุ์ เพื่อส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศ
ซึ่งมีข้อดีสำหรับการส่งหัวพันธุ์ไปต่างประเทศ
ในแง่การจัดการหัวพันธุ์ง่ายกว่าการจัดการดอก เก็บรักษาได้นาน
ไม่เน่าเสียหายเหมือนดอกสด สามารถขนส่งไปทางเรือได้ในปริมาณมาก
ปริมาณหัวปทุมมาที่ส่งออกปี 2546 จำนวน 2.2 ล้านหัว มูลค่า 16.2 ล้านบาท
โดยส่งออกไป เยอรมัน อเมริกา ญี่ปุ่น โปรตุเกส เนเธอร์แลนด์ อิตาลี ออสเตรเลีย
»
การปลูกและดูแลรักษา
»
โรค
»
การเก็บเกี่ยวหัวพันธุ์
- จัดทำโดย
อรวรรณ วิชัยลักษณ์ ผอ.กลุ่มส่งเสริมการผลิตไม้ดอกไม้ประดับ
สำนักส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร