เทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ วิศวกรรม เกษตรศาสตร์ >>
การปลูกแอปเปิล
แอบเปิลเป็นไม้ผลเมืองหนาวประเภทผลัดใบ ซึ่งมีแหล่งกำเนิดทางยุโรป
แหล่งปลูกที่สำคัญ ๆ ของโลกคือทวีปอเมริกา ยุโรปทางแถบเอเซียก็มี เช่น โซเวียต จีน
ญี่ปุ่นรวมทั้งออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ด้วย
สำหรับประเทศไทยนั้นเพิ่งจะถูกนำเข้ามาปลูกไม่กี่ปีนี้เอง ลักษณะต้นและใบ
เป็นไม้เนื้อแข็ง รูปร่างของยอดที่เจริญเต็มวัยจะแตกต่างไปตามชนิดและตามพันธุ์
โดยทั่วไปต้นแอปเปิลมีรูปร่างเกือบเป็นทรงกลม แต่บางพันธุ์ก็มีลักษณะสูงชลูด
บางพันธุ์ก็มีลักษณะเป็นพุ่มแจ้ ใบเป็นใบเดี่ยวเขียวสลับกันและขอบเป็นหยัก
ผลคล้ายชมพู่มีรอยเป็นปุ๋มทางด้านขั้นและก้นผล
แต่ไม่ลึกนักมีสีผิวต่างกันตั้งแต่สีเหลืองคล่ำจนถึงน้ำตาลแดงเข้ม
เนื้อมักจะมีสีขาวหรือขาวนวลซึ่งมีลักษณะหยาบ แอปเปิลเป็นพืชในสกุล Rosaceae
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Malus domestica
สภาพดินฟ้าอากาศ
แอปเปิลเป็นไม้ผลเมืองหนาวที่ต้องการอากาศหนาวเย็นอันยาวนานโดยจะทำให้ระยะพักตัวยุติลง
โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมคือ 60-85 องศาฟาเรนไฮต์ ถ้าอุณหภูมิต่ำกว่า 20 องศาฟาเรนไฮต์
จะเป็นอันตรายต่อระบบรากอย่างรุนแรง
สำหรับดินที่เหมาะสมกับการปลูกแอปเปิลควรเป็นดินร่วนปนทรายมีความเป็นกรด-ด่างประมาณ
5.0-6.8 แต่แอปเปิลไม่ชอบดินที่มีน้ำขังบริเวณราก
พันธุ์แอปเปิล
พันธุ์แอปเปิลมีประมาณ 2,000 พันธุ์ แต่ที่ดีและนิยมปลูกมีเพียง 4 พันธุ์ คือ
1. พันธุ์แอนนา
เป็นพันธุ์ที่ผสมขึ้นมาในประเทศอิสราเอลเมื่อผลแก่จัดจะมีสีเหลืองสดขนาดใหญ่ปานกลาง
รูปผลค่อนข้างยาว
2. พันธุ์ เอน เชเมอ ผลค่อนข้างกลมขนาดเล็กว่า แอนนา เล็กน้อย สีเหนืองจัด ทั้ง 2
พันธุ์นี้ปลูกที่ดอยอ่างขางเริ่มจะให้ผลแล้ว
3. พันธุ์ โรม บิวตี้
เป็นพันธุ์ที่ปล่อยละอองเรณูหลังจากที่ออกช่อดอกเร็วที่จะสามารถรับเชื้อได้ ดังนั้น
พันธุ์นี้จึงไม่มีประโยชน์ที่จะใช้เป็นตัวถ่ายละอองเรณูแก่พันธุ์อื่น ๆ ได้
4. พันธุ์ แกลนด์ อเลกเซนเตอร์
การขยายพันธุ์
การขยายพันธุ์แอปเปิลทำได้หลายวิธี เช่นการติดตา ตัดกิ่ง
วิธีการทำก็เริ่มจากเตรียมต้นตอ ซึ่งอาจจะได้มาจากการตอนหรือปักชำ
แต่มีวิธีการเตรียมต้นตอซึ่งจะได้จำนวนมากและระยะเวลารวดเร็วก็คือ
ทำโดยปลูกแอปเปิลลงไปก่อน แล้วตัดต้นแอปเปิลให้เหลือแต่ตอ
ตอจะแตกกิ่งก้านสาขาออกมามากมาย เราจึงใช้ดินกลบโคนต้น
กิ่งเหล่านั้นก็จะแตกรากออกมา เมื่อรากออกดีแล้วก็ทำการขุดย้ายเอาไปปลูกต่อไป
ต้นตอที่ใช้ในประเทศไทยคือพันธุ์ เอ็ม เอ็ม 106
ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ค่อนข้างแคระและสามารถขยายพันธุ์ได้ง่ายและรวดเร็ว
นอกจากนี้ก็ยังมีไม้ป่าที่ใช้เป็นต้นตอได้ดี เช่น มะขี้หนู กล้วยฤาษี ก่อ เป็นต้น
การปลูกและการปฏิบัตดูแลรักษา
การปลูกแอปเปิลมีระบบการปลูกเป็น 2 แบบ คือ
1. ระบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า
2. ระบบแนวระดับ
ในระบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าจะปลูกต้นไม้เป็นมุมฉากต่อกันอยู่แต่ละมุมของสี่เหลี่ยมผืนผ้า
เหมาะสำหรับปลูกไม้แซมทำให้พรวนดินได้ 2 ทาง สะดวกในการดูแลรักษา
และต้นแอปเปิลจะได้รับแสงแดดมากที่สุด
ส่วนระบบแนวระดับจะปลูกตามแนวระดับทางเดียวและมักจะคดเคี้ยวไปตามระยะทางห่างกันอีกด้านเป็นระยะจำกัด
ระบบนี้ช่วยลดการสึกกร่อนของดินเหมาะกับพื้นที่ที่เป็นเนินเขาหรือที่ลาดชัน
การเตรียมดิน ก็เหมือนกับการปลูกไม้ผลทั่วไป โดยขุดหลุมขนาด 1x1x1 เมตร
กองดินดินบนไว้กองหนึ่ง และดินชั้นล่างไว้อีกกองหนึ่ง นำปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเก่า ๆ
เทใส่ลงไปขนาดพอ ๆ กับกองดินบน
ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันจากนั้นจึงค่อยเอาดินล่างกลบลงไปให้มีระยะสูงกว่าปากหลุมเล็กน้อย
นำต้นตกลงปลูกได้แล้วกลบดินบริเวณโคนต้นให้แน่นพอควร
ระยะปลูกที่เหมาะสม 3x3 เมตร หรือ 4x4 เมตร ในพื้นที่ 1 ไร่ จะได้ประมาณ 100-177
ต้น
ฤดูกาลที่ปลูก ควรทำในขณะที่อยู่ในช่วงพักตัว คือช่วงฤดูหนาว
ซึ่งในช่วงนี้ต้นพืชจะได้รับการกระทบกระเทือนจากการขุดย้ายน้อยที่สุด
การให้ปุ๋ย
จะให้ประมาณ 2 ครั้งต่อปี โดยในช่วงเริ่มออกดอกจะให้สูตร 13-13-21
และในช่วงหลังเก็บเกี่ยวและตัดแต่งจะให้สูตร 15-15-15
ส่วนอัตราที่ใช้ก็แล้วแต่ขนาดและอายุของการเจริญเติบโต
วิธีการให้ปุ๋ยก็ทำโดยพรวนดินบริเวณรอบทรงพุ่มแล้วโรยปุ๋ยลงบนบริเวณที่พรวน
จากนั้นก็ให้น้ำตามลงไป
สำหรับวิธีการต่าง ๆ ที่จะช่วยให้แอปเปิลมีดอกและผลก็มีการศึกษาทดลองกันมากมาย เช่น
ในประเทศอินโดนีเซียใช้การโน้มกิ่งและปลิดใบ เพื่อบังคับให้ตาแตก
จากวิธีนี้จะทำให้แอปเปิลออกผลได้ 2 ครั้งต่อปี
การตัดแต่งกิ่ง
การตัดแต่งกิ่งจะนิยมทำกันในช่วงที่ต้นแอปเปิลพักตัวคือในฤดูหนาว
ซึ่งในช่วงนี้เป็นช่วงที่แอปเปิลทิ้งใบจะสะดวกในการตัดแต่งกิ่งมาก
การปลิดผล
เมื่อแอปเปิลติดผลมากเกินไปก็จะทำให้ได้ขนาดผลที่เล็กและอาจเป็นอันตรายแก่ต้นได้
เพราะใช้อาหารจากต้นมาก ดังนั้น จึงต้องมีการปลิดผลออกบ้าง
โดยคำนึงถึงความแข็งแรงของต้น กิ่งและใบ โดยปกติแล้วใบที่จะปลุงอาหารมาเลี้ยงผลไม่ควรต่ำกว่า
40 ใบต่อ 1 ผล
การห่อผล
แอปเปิลที่ปลูกอยู่เราใช้กระดาษห่อผลตั้งแต่เมื่อผลยังมีขนาดเล็กอยู่ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันแมลงที่อาจจะมาเจาะผลทำลายและการห่อผลยังช่วยให้สีผลแอปเปิลสวยสดกว่าด้วย
การปลูกพืชคลุมดิน
ในการทำสวนแอปเปิลมีความจำเป็นต้องทำในที่ที่มีอากาศเย็นหรือสภาพภูเขาสูง
สิ่งที่จำเป็นคือพืชคลุมดิน
โดยจะช่วยลดการชะล้างหน้าดินและยังช่วยเก็บความชุ่มชื่นของดินให้อยู่ได้นานทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์เพิ่มขึ้นด้วย
พืชที่ใช้ได้ดีบนดอยอ่างขางคือ เดสโมเดียมเป็นพืชตระกูลถั่วสามารถเจริญเติบโตได้ดี
โรคและแมลง
การปลูกแอปเปิลในเมืองไทยขณะนี้มีศัตรูที่สำคัญ คือ นก
ซึ่งจะจิกผลแอปเปิลให้เกิดตำหนิเสียหาย ส่วนศัตรูอื่น ๆ
เช่นโรคและแมลงก็มีบ้างแต่ยังไม่ทำความเสียหายมากนัก
การเก็บเกี่ยว
แอปเปิลที่ปลูกในประเทศไทยคือที่ดอยอ่างขาง
จะเริ่มออกดอกประมาณเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์
และจะเริ่มเก็บผลได้ประมาณต้นเดือนมิถุนายน
การเก็บต้องระมัดระวังให้มีการกระทบกระเทือนน้อยที่สุด
เพื่อป้องกันการชอกช้ำเสียหายอันจะทำให้ราคาต่ำได้
หลังจากเก็บแล้วก็นำบรรจุหีบเพื่อส่งตลาดต่อไป
ประโยชน์
แอปเปิลเป็นไม้ผลที่นิยมรับประทานผลสด ราคาจำหน่ายก็สูงประมาณ 12-15 บาท
นอกจากนี้ยังสามารถเอาไปทำ ไซเดอร์
และบางพันธุ์ยังนำไปทำอาหารคาวหวานได้หลายชนิดเช่น ไพน์ แยม เป็นต้น
- พิมพ์เผยแพร่โดย ฝ่ายส่งเสริมการเกษตรที่สูง กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์