ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม อารยธรรม >>
นาฏศิลป์ไทย
คณะศิลปศึกษา สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ พ.ศ. 2550
รูปแบบของการแสดงละครใน
รำศุภลักษณ์อุ้มสม
เทคนิคและกระบวนการรำ
ละครโนห์ราชาตรี
การแสดงละครเป็นที่นิยมแพร่หลายมาตั้งแต่สมัยต้นกรุงศรีอยุธยา ต่อมาขุนศรัทธาซึ่งเป็นตัวละครที่เก่งคนหนึ่งในสมัยนั้น ได้นำเอาแบบแผนละครกรุงศรีอยุธยาไปสอนให้ชาวนครศรีธรรมราช จึงทำให้แบบแผนละครกรุงศรีอยุธยาไปแพร่หลายในภาคใต้ เรียกว่า ละครโนห์ราชาตรี ชาวใต้ได้อนุรักษ์และสืบทอดต่อกันมาจนกลายเป็นแบบแผนของละครในจังหวัดภาคใต้ ในขณะที่ละครในกรุงศรีอยุธยาได้ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป มีการนำรูปแบบของละครที่เกิดขึ้นใน สมัยต่อ ๆ มาเข้ามาปะปน จึงทำให้ไม่สามารถรักษารูปแบบแผนเดิมไว้ได้ แต่ทางภาคใต้ยังคงรักษารูปแบบการแสดงของเดิมไว้จนถึงปัจจุบันนี้
รูปแบบวิธีการแสดง ใช้ผู้แสดง 3 คน ได้แก่ นายโรงหรือตัวพระเอก ตัวนางและตัวตลก ตัวตลกนอกจากจะแสดงเพื่อให้ผู้ดูเกิดความขบขันแล้ว ยังต้องแสดงบทอื่นๆ อีก เช่น เป็นฤาษี เป็นยักษ์ เป็นม้า เป็นนก ตลอดจนเป็นทุกๆ อย่างที่มีในเนื้อเรื่อง
เรื่องที่นำมาแสดง การแสดงละครโนราห์ชาตรี เรื่องที่นำมาใช้แสดงมี 2 เรื่อง ได้แก่ เรื่อง พระรถเสน และเรื่องนางมโนห์รา ปรากฏว่าเรื่องที่นิยมแสดงมากคือเรื่อง นางมโนห์รา ซึ่งเป็นเหตุให้ละครของขุนศรัทธามีชื่อเรียกว่า ละครมโนห์รา ตามชื่อของเรื่องที่นำมาแสดง แต่วัฒนธรรมในการพูดหรือการเรียกชื่อของคนไทยในภาคใต้มักจะนิยมพูดหรือเรียก ชื่อตัดคำหน้าทิ้งจึงทำให้ชื่อเรียกละครมโนห์ราเหลือเพียงละครโนห์รา
ดนตรีที่ใช้ประกอบในการแสดง มี 2 ประเภท คือ เครื่องดนตรีที่ใช้ทำจังหวะ ได้แก่ ฆ้องคู่ ทับ กลองตุ๊ก โทน กรับ ฉิ่ง ส่วนเครื่องดนตรีที่ใช้ดำเนินทำนองเพลงมีเพียงปี่นอกเท่านั้น
การแต่งกาย เครื่องแต่งกายของตัวพระเอก คือ สวมสนับเพลากรอมถึงข้อเท้า นุ่งผ้าทับ ชั้นนอกหยักรั้งขึ้นไป แล้วจีบโจงหางหงส์คาดห้อยหน้าและเจียรบาด ( ผ้าที่ห้อยปิดด้านหน้าและด้านข้าง ) ไม่สวมเสื้อ สวมเครื่องประดับ ได้แก่ กรองคอ ทับทรวง สังวาล และเทริด คือ มงกุฎทรงเตี้ย ตัวนาง แต่งอย่างนางละครกล่าว คือ นุ่งผ้าถุง ห่มผ้าสไบ ตัวตลก แต่งอย่างคนธรรมดาและจะต้องมีผ้าขาวม้าเข้ามาเป็นอุปกรณ์สำหรับใช้ในการแสดง
ละครโนห์ราชาตรี
ละครนอก
ละครใน
ละครดึกดำบรรพ์
ละครพันทาง
ละครเสภา