วรรณกรรม สุภาษิต ข้อคิด คำคม สำนวน โวหาร งานเขียน >>
ขุนช้าง-ขุนแผน
ฉบับร้อยแก้ว
พลายแก้วได้นางพิม
รุ่งเช้าเณรแก้วรู้สึกคิดถึงนางพิมมาก ได้ไปบิณฑบาตรที่บ้านนางพิม นางพิมไม่ยอมลงไปใส่บาตร สายทองจึงต้องลงไป แล้วเณรแก้วจึงว่ามีเรื่องอยากจะคุยกับนางสายทอง ให้พานางพิมไปอาบน้ำที่ท่าน้ำ เมื่อถึงเวลาบ่าย สายทองพานางพิมไปอาบน้ำ เณรแก้วจึงมาตามที่ได้นัดกันไว้
เมื่อพบกันเณรแก้วจึงอ้อนวอนให้สายทอง ช่วยให้ตนได้พบกับนางพิม หากสำเร็จจะทดแทนบุญคุณ วันรุ่งขึ้น นางสายทองลงมาใส่บาตร ได้บอกกับเณรแก้วว่า จะพานางพิมไปที่ไร่ฝ้ายตอนบ่าย เมื่อถึงตอนบ่ายนางสายทองกับนางพิม บอกนางศรีประจันว่าจะไปเก็บฝ้ายในไร่ ส่วนเณรแก้วก็ไปลาสึกกับชีต้น แล้วพาไปพบกับนางพิมที่ไร่ฝ้าย เมื่อพบกันนางพิมไม่ยอมพูดจา เณรแก้วจึงพูดถึงเรื่องตอนเด็กให้ฟัง ทำให้นางพิมจำได้ว่า เณรแก้วนั้นเคยเป็นเพื่อนเล่นกันมาในตอนเป็นเด็ก
"
เมื่อเด็กเด็กเล็กเล่นอยู่ด้วยกัน
สารพันร่วมรักกันหนักหนา
เมื่อเล่นขอปลูกหอกับแก้วตา
พี่พาเจ้าหนีขุนช้างไป
ขุนช้างตามพบมันรบพี่
พลั้งตีถูกน้องเจ้าร้องไห้
แก้วตามาประหม่าพี่ยาไย
จงปราศรัยปรองดองสักสองคำ"
แล้วเณรแก้วก็เข้าเล้าโลมนางพิมด้วยประการต่างๆ นางพิมจึงต่อว่า
"...อดข้าวดอกนะเจ้าชีวาวาย
ไม่ตายดอกเพราะอดเสน่หา..."
เมื่อถึงเวลาค่ำ เณรแก้วได้ดูฤกษ์ยามที่จะไปบ้านนางพิม
".....ยืนขยับเพ่งพิศเมฆฉาย
.....
พิเคราะห์ดูหลาวเหล็กและผีหลวง....
.....ปลอดห่วงดวงใจก็ฮึกหาญ
สูรย์จันทร์แม่นยำด้วยชำนาญ
ย่างเท้าก้าวผ่านไปตามทิศ.....
"
เณรแก้วได้เสกข้าวสารหว่านไปจนผู้คนในบ้านหลับสนิท แล้วสะเดาะกลอน กลิ้งครกเหยียบยืนขึ้นไปบนเรือน และได้นางพิมเป็นเมีย หลังจากกลับจากบ้านนางพิม ก็ได้ไปขอให้ชีต้นบวชให้ดังเดิม