ศาสนา ลัทธิ ความเชื่อ นิกาย พิธีกรรม >>
กรอบแนวคิดที่ใช้ในการตีความ
แนวคิดการตีความแบบโรแมนติคของชไลมาเคอร์
วิธีการตีความแบบบุคลาธิษฐาน (Allegorical Method)
เทพ กับอสูร ในคัมภีร์อเวสตะของอิหร่าน
เทวาสุรสงครามในคัมภีร์พระเวท
เทวาสุรสงคราในวรรณคดีบาลี
ทัศนะเกี่ยวกับเทวาสุรสงคราม
เนื้อหาของจันทิมสูตร และสุริยสูตร
จันทิมสูตร กับสุริยสูตร กับบริบททางสังคม
จันทิมสูตรและสุริยสูตร : ไม่ใช่การเสนอข้อเท็จจริงทางอภิปรัชญา
ราหูอมจันทร์/อาทิตย์ : การแสดงธรรมแบบบุคลาธิษฐาน
สรุปและเสนอแนะ
อ้างอิง
วิธีการตีความแบบบุคลาธิษฐาน (Allegorical Method)
วิธีการตีความจันทิมสูตร และสุริยสูตร ที่น่าจะสอดคล้องเจตนารมณ์ในการแสดงธรรมของพระพุทธเจ้ามากที่สุด คือ การตีความแบบบุคลาธิษฐาน นั่นคือ ในการแสดงเรื่องราหูอมพระอาทิตย์หรือพระจันทร์ แน่นอนเหลือเกินว่า พระพุทธองค์ไม่ได้ต้องการพิสูจน์ทฤษฎีที่ว่ามีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติเหล่านี้อยู่จริง ๆ หรือไม่ เนื่องจากเป็นปัญหาที่อยู่ในข่ายเดียวกันกับอัพยากตปัญหา และเป็นปัญหาที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องความทุกข์และความดับทุกข์ ดังนั้น การยกเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาแสดง จึงน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงธรรมแบบบุคลาธิษฐาน โดยยกเอาระบบความคิดความเชื่อที่ฝั่งรากลึกอยู่ในสังคมอินเดียสมัยนั้นมาเป็นสื่อในการแสดงธรรม เนื่องจากเป็นเรื่องที่สามารถสื่อกับคนในยุคนั้นให้เข้าใจได้ง่ายนั่นเอง
โดยจุดสนใจของพระองค์ไม่ได้อยู่ที่ว่าแนวคิดนี้มีความจริงทางอภิปรัชญารองรับหรือไม่ หากแต่จุดสนใจอยู่ที่ว่าแนวคิดนี้สามารถสื่อคำสอนทางจริยธรรมได้อย่างไรเป็นสำคัญ วิธีการตีความแบบบุคลาธิษฐาน เป็นวิธีการที่ศาสนาจารย์ศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาธอลิค นำมาใช้ในคริสต์ศตวรรษที่ 2-3 เซ็นต์ ออกัสตีน ก็ชื่นชอบวิธีการตีความแบบนี้ และถือว่าเป็นวิธีการที่โดดเด่นมากตลอดสมัยยุคกลาง วิธีการตีความแบบนี้ มีหลักการว่า ความหมายตามตัวอักษรของคัมภีร์ ไม่ใช่ความหมายที่แท้จริง หรือเป็นเพียงหนึ่งในความหมายที่หลากหลายเท่านั้น โดยแก่นแท้ของแต่ละข้อความ จะต้องมีความหมายสอดคล้องกับความจริงทางจิตวิญญาณด้วย หรือมีความหมายแง่ของนามธรรมทางจิตใจ (คล้ายหมายทางภาษาธรรมของท่านพุทธทาส-ผู้เขียน) ความหมายในแง่นี้ถือว่าเป็นความหมายระดับสูงสุดของข้อความ พระสันตะปาปาหลายท่าน ก็ได้ใช้วิธีการนี้สำหรับปกป้องสถานะความสูงสุดของตำแหน่งพระสันตะปาปา ดังที่พระสันตะปาปา อินโนเซ็นต์ ที่ 3 สอนว่า แสงสว่างอันยิ่งใหญ่ 2 ประการในปฐมกาล 1 หมายถึง กฎเกณฑ์แห่งอำนาจศักดิ์สิทธิ์ ที่มีอยู่ในโลก ดังนั้น พระอาทิตย์ จึงเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจศักดิ์สิทธ์ทางธรรมหรือทางจิตวิญญาณ ได้แก่ พระสันตะปาปา ส่วนพระจันทร์ เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจความศักดิ์สิทธิ์ทางโลก ได้แก่พระเจ้าจักรพรรดิ พระสันตะปาปาโบนิเฟซที่ 8 อ้างถึงคัมภีร์ลูกา 22 : 38 ที่สอนว่า ดาบ 2 อันที่เหล่าสาวกถือไว้ หมายถึง สาวกผู้มีอำนาจในอาณาจักร และศาสนจักร