ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ บุคคลสำคัญ ประเทศและทวีป »
จังหวัดชลบุรี
ข้อมูล » ประวัติศาสตร์-ความเป็นมา ศิลปะ-วัฒนธรรม-ประเพณี สถานที่สำคัญ-แหล่งท่องเที่ยว โรงแรม-ที่พัก
ประวัติศาสตร์-ความเป็นมา จังหวัดชลบุรี(3)
จังหวัดชลบุรีเจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 เป็นต้นมา พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ได้เสด็จประพาสชลบุรีหลายครั้งหลายหนเพราะชลบุรีเป็นเมืองชายทะเล เหมาะแก่การพักผ่อน มีทัศนียภาพงดงามและไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครนัก
ในจดหมายเหตุพระราชกิจประจำวัน จะมีหลักฐานปรากฏชัดว่า รัชกาลที่ 4-5-6 ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ได้เสด็จประพาสชลบุรีเมื่อไร ทรงพระราชกรณียกิจใดๆ บ้างล้วนแต่เป็นพระราช-กรณียกิจพื้นฐานสร้างชลบุรีให้เจริญรุ่งเรืองมาจนตราบเท่าทุกวันนี้
ในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อปี พ.ศ. 2350 พระสุนทรโวหาร หรือ สุนทรภู่รัตนกวีของไทย ได้เดินทางจากกรุงเทพมหานครเพื่อไปเยี่ยมบิดาที่เมืองแกลง จังหวัดระยอง ได้เขียนไว้ในนิราศเมือง แกลง กล่าวถึงเมืองต่างๆ เมื่อเข้าเขตจังหวัดชลบุรีแล้วไปตามลำดับจากเหนือไปใต้คือ บางปลาสร้อย หนองมน บ้านไร่ บางพระ บางละมุง นาเกลือ พัทยา นาจอมเทียน ห้วยขวาง หนองชะแง้ว (ปัจจุบันเรียกบ้านชากแง้ว อยู่ในเขตอำเภอบางละมุงซึ่งเป็นทางที่จะไปอำเภอแกลง จังหวัดระยอง ได้)
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. 2437 ได้ทรงเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองราชอาณาจักรที่เป็นหัวเมืองต่างๆ แบบโบราณที่แยกกันอยู่ในบังคับบัญชาของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม และกรมท่า ดูไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ยากแก่การปกครอง ดูแลให้ทั่วถึงและเสมอเหมือนกันได้ โดยให้หัวเมืองต่างๆ ทั่วราชอาณาจักรขึ้นอยู่กับกระทรวงมหาดไทยเพียงกระทรวงเดียวหรือหน่วยงานเดียว คือ การรวบรวมหัวเมืองทั้งหลายขึ้นเป็นมณฑลนั้น สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย (พ.ศ. 24352458) ได้ทรงนิพนธ์ไว้ใน พระบันทึกความทรงจำ ซึ่งมีตอนที่กล่าวถึงเมืองชลบุรีไว้ว่า
รวมหัวเมืองทางลำน้ำบางปะกง คือเมืองปราจีนบุรี 1 เมืองนครนายก 1 เมืองพนมสาร-คาม 1 เมืองฉะเชิงเทรา 1 รวม 4 หัวเมือง เป็นเมืองมณฑล 1 เรียกว่า มณฑลปราจีน ตั้งที่ว่าการมณฑล ณ เมืองปราจีน (ต่อเมื่อโอนหัวเมืองในกรมท่ามาขึ้นกระทรวงมหาดไทย จึงย้ายที่ว่าการมณฑลลงมาตั้งที่เมืองฉะเชิงเทรา เพราะขยายอาณาเขตมณฑลต่อลงไปทางชายทะเล รวมเมืองพนัสนิคม เมืองชลบุรี และเมืองบางละมุง เพิ่มให้อีก 3 เมือง รวมเป็น 7 เมืองด้วยกัน) แต่คงเรียกชื่อว่ามณฑลปราจีนอยู่ตามเดิม
การปกครองหัวเมืองหรือที่รู้จักในปัจจุบันว่าเป็นราชการส่วนภูมิภาคนั้น
ได้เริ่มเปลี่ยนแปลงจากระบบเดิมมาเป็นระบบมณฑลหรือระบบเทศาภิบาลจริงจัง
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2437 เป็นต้นมา
กล่าวคือ
จากมณฑลแบ่งย่อยออกมาเป็นเมือง
เป็นอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน
โดยมีผู้ปกครองบังคับบัญชาเรียกว่า
สมุหเทศาภิบาล
ผู้ว่าราชการเมือง นายอำเภอ
กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตามลำดับ
ครั้นถึง พ.ศ. 2458 ในสมัยรัชกาลที่ 6
ได้รวมมณฑลจัดตั้งขึ้นเป็นภาค
โดยมีอุปราชเป็นผู้ปกครอง
มีอำนาจเหนือสมุหเทศาภิบาล
มีด้วยกัน 4 ภาค คือ ภาคพายัพ
ภาคปักษ์ใต้ ภาคอีสาน
และภาคตะวันตก
สำหรับภาคกลางให้คงเป็นมณฑลอยู่อย่างเดิม
เรียกว่า มณฑลอยุธยา
มีอุปราชปกครองแทนสมุหเทศาภิบาล
การปกครองหัวเมืองแบบแบ่งเป็นภาคและมีตำแหน่งอุปราชเช่นว่านี้
ได้ยกเลิกเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2468
ในสมัยรัชกาลที่ 7
โดยกลับไปใช้ในลักษณะเป็นมณฑลอย่างเดิมในลักษณะที่มีจำนวนมากขึ้นจนสูงสุดถึง
20 มณฑล และภายใน 10 ปีต่อมา คือก่อน
พ.ศ. 2475 ได้ยุบและยกเลิกหลายๆ
มณฑลลง เหลือเพียง 10
มณฑลเป็นครั้งสุดท้าย
โดยมีรายชื่อมณฑลปรากฏอยู่ในระบบการปกครองหัวเมืองครั้งนั้น
ดังนี้ คือ
(1) มณฑลพิษณุโลก
(2)
มณฑลปราจีนบุรี
(3) มณฑลนครราชสีมา
(4) มณฑลราชบุรี
(5) มณฑลนครชัยศรี
(6)
มณฑลนครสวรรค์
(7) มณฑลกรุงเก่า
(ต่อมาในรัชกาลที่ 6
เปลี่ยนชื่อเป็นมณฑลอยุธยา)
(8)
มณฑลภูเก็ต
(9) มณฑลนครศรีธรรมราช
(10) มณฑลชุมพร
(11) มณฑลไทรบุรี
(12)
มณฑลเพชรบูรณ์
(13) มณฑลพายัพ
(14)
มณฑลอุดร
(15) มณฑลอีสาน
(16)
มณฑลปัตตานี
(17) มณฑลจันทบุรี
(18)
มณฑลอุบล
(19) มณฑลร้อยเอ็ด และ
(20)
มณฑลมหาราษฎร์ (แยกจากมณฑลพายัพ)
หลัง พ.ศ. 24402475 ได้มีอำเภอเกิดขึ้น เมืองใหญ่ๆ ยังคงเป็นเมืองอยู่ ส่วนเมืองเล็กๆ ให้ยุบเป็นอำเภอไปขึ้นอยู่กับเมือง โดยมีผู้ว่าราชการเมืองเป็นผู้ปกครองบังคับบัญชา สูงสุดของเมือง ขณะนั้นคำว่าจังหวัดมีใช้อยู่แห่งเดียวในราชอาณาจักร คือ จังหวัดกรุงเทพมหานคร (ปรากฏเรียกใน พ.ร.บ. ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มาตรา 2) เข้าใจว่า คำว่าเมืองชลบุรีมีชื่อเรียกกันในช่วงนี้ โดยมีอำเภอบางปลาสร้อย (ที่ตั้งตัวเมือง) อำเภอพานทอง อำเภอพนัสนิคม อำเภอบางละมุง อยู่ในเขตการปกครองในระยะต้น และในระยะหลังปี 2460 ก็มีอำเภอ ศรีราชา กิ่งอำเภอเกาะสีชัง กิ่งอำเภอบ้านบึง เกิดขึ้นรวมอยู่ในเขตเมืองชลบุรีตามมา
พ.ศ. 2475 เป็นระยะที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงในรูปการปก-ครองประเทศครั้งใหญ่ โดยพระราชบัญญัติระเบียบราชการบริหารแห่งราชอาณาจักรสยาม พ.ศ. 2476 ได้ยกเลิกเขตการปกครองแบบเมืองทั่วราชอาณาจักร แล้วตั้งขึ้นเป็นจังหวัดแทน มีข้าหลวงประจำจังหวัดเป็นผู้ปกครองบังคับบัญชา เมืองชลบุรีเดิมก็กลายเป็นจังหวัดชลบุรีมาจนถึงปัจจุบันนี้ (แต่เปลี่ยนข้าหลวงประจำจังหวัดเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด) โดยมีอำเภอและกิ่งอำเภออยู่ในเขตการปกครองเพิ่มเติมจากที่มีอยู่แล้วตามลำดับ คือ ยกฐานะกิ่งอำเภอบ้านบึงเป็นอำเภอบ้านบึง พ.ศ. 2481 กิ่งอำเภอสัตหีบเป็นอำเภอสัตหีบ พ.ศ. 2496 กิ่งอำเภอหนองใหญ่เป็นอำเภอหนองใหญ่ พ.ศ. 2524 และตั้งกิ่งอำเภอบ่อทอง พ.ศ. 2521
ที่มา : ประวัติมหาดไทยส่วนภูมิภาคจังหวัดชลบุรี
<<< ย้อนกลับ ||
จังหวัด » จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด ปราจีนบุรี ระยอง สระแก้ว
Feelathome
บ้านพักรายวัน สัตหีบ สไตล์โฮมสเตย์
4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ห้อวครัว ห้องนั่งเล่น แอร์ wifi เตาปิ้งย่าง ที่จอดรถ อุปกรณ์ครบครัน ใกล้ทะเลเพียง 10 นาที ติดต่อ 083 2947254