ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม อารยธรรม >>
สาเหตุที่มนุษย์มีการแต่งกายแตกต่างกัน
การแต่งกายไทยตามสมัยประวัติศาสตร์และโบราณคดี
การแต่งกายสมัยรัตนโกสินทร์
การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของการใช้เสื้อผ้าในแต่ละยุคสมัย
การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของการใช้เครื่องประดับในแต่ละยุคสมัย
การแต่งกายของชาวเขาในประเทศไทย
การแต่งกายชาวเอเซีย
การแต่งกายชาวตะวันออกกลางและยุโรป
การแต่งกายของยุโรปตอนเหนือ
แนวความคิดในการออกแบบเครืองแต่งกายจากสมัยต่าง ๆ
การแต่งกายของยุโรปตอนเหนือ
THE NORTHERN EUROPEANS CUSTOMES
การแต่งกายBYZANTINE (บาเซ็นไทน์)
บาเซ็นไทน์ เป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิโรมันทางตะวันออก ทางตะวันตกคือโรม กษัตริย์ จัสติเนียน (Justinian) ได้ให้การสนับสนุนการแต่งกายของชาวบาเซ็นไทน์ โดยให้นำการทอผ้า
ของชาวซีเรียนมาทอผ้าเป็นผืน โดยการใช้กระสวยและให้นำเอาตัวไหมและรังไข่จากจีนมาเลี้ยง
โดยใช้ใบหม่อนมาเลี้ยง
ชาวบาเซ็นไทน์ มีการแต่งกายผสมผสานกันระหว่างโรมัน และชาวตะวันออก
ทั้งหญิงและ
ชายจะใส่ชุดทูนิคยาวทรงตรง แขนยาว ทำจากผ้าไหม หรือผ้าลินิน จะมีการทอผ้ายกดอกยกดิ้นทอง
ผู้ชายจะมีเสื้อคลุมที่เรียกวา Mantle เหมือนกับ Toga ของ Roman จะมีแถบริมด้านซ้าย
บอกถึงยศฐาบรรดาศักดิ์ ส่วนผู้หญิงจะสวมเสื้อคลุมชุดทูนิคที่เรียกว่า Stola หรือ Pealla จะใช้
คลุมศีรษะด้วย ทั้งหญิงและชายจะกลัดเข็มกลัดที่ไหล่ข้างขวาเป็นเพชรหรือหินสีต่าง ๆ
ชุดทูนิคที่เป็นชุดยาว ต่อมาเป็นชุดสตรียาว เรียก Gunna ชุดทูนิคสั้น เรียกว่า Juppe
ใส่กับชุดทูนิคยาวอีกที มีลักษณะแขนยาวเหมือนแขนปีกค้างคาว
ผู้หญิงจะสวมหมวกที่ทำจากผ้าไหมเป็นตาข่าย ปักด้วยเพชร พลอย และแก้วสีต่าง ๆ
ตาม Style ของยุโรปตอนกลาง ใส่แหวน ต่างหู เป็นรูปนกคู่ ใช้นำ้หอม
รองเท้าแตะก็ยังใช้อยู่ แต่เท้าจะสวมใส่ด้วยรองเท้าที่ทำจากหนังนุ่มถึงข้อเท้าและตกแต่ง
ด้วยทองและมุก
การแต่งกายสมัย Byzantine มีความหรูหรา ฟุ่มเฟือยมาก และนิยมไปจนถึงสมัยกลาง
และสมัยฟื้นฟูของยุโรป และยังเป็นพื้น ฐานการแต่งกายของชาวรัสเซียด้วย
BYZANTINE (บาเซ็นไทน์)
สมัยแขกมัว (Moorish or Saracenic Spain)
สมัยฟื้นฟูของสเปน
อิตาเลียน
อังกฤษ
ฝรั่งเศส