เทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ วิศวกรรม เกษตรศาสตร์ >>
ภาชนะบรรจุอาหาร
โดย กลุ่มงานเคหะกิจเกษตร กองพัฒนาการบริหารงานเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร
การบรรจุผักและผลไม้สดเพื่อการส่งออก
เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า
ในขณะนี้รัฐบาลได้กำหนดนโยบายแน่ชัดในเรื่องของการเร่งรัดการส่งออก
เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่
6 ในจำนวนสินค้าไทยที่ส่งออกทั้งหมด
ผักและผลไม้สดเป็นสินค้าอย่างหนึ่งที่ทำรายได้ให้แก่ประเทศปีหนึ่งหลายพันล้านบาท
และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นทุกที เนื่องจากลู่ทางที่จะขยายตลาดได้
อีกทั้งผักและผลไม้ก็มีคุณภาพและรสชาติเป็นที่ต้องการของชาวต่างประเทศ
ผักผลไม้ที่ทำการส่งออกไปนั้น มีมากมายหลายชนิด ผลไม้ เช่น มะม่วง ลำไย กล้วยหอม
ลิ้นจี่ มะละกอ ทุเรียน องุ่น เป็นต้น ส่วนพวกผักได้แก่ ถั่วฝักยาว พริก ผักบุ้งจีน
ต้นหอม ผักชี เห็ดสด คะน้า มะเขือเทศ หน่อไม้ไผ่ตง เป็นต้น
ตลาดหลักคือประเทศใกล้เคียงเช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และญี่ปุ่น
ตลาดรองที่สามารถขยายได้ คือ ตลาดยุโรป นอกจากนั้นยังมีตลาดในประเทศตะวันออกกลาง
ปัญหาที่สำคัญ และมักประสบในการส่งออกพืชผลสดเหล่านี้ คือ มีสูญเสียสูง
โดยเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 25 ทั้งนี้
เนื่องจากผักผลไม้สดส่วนใหญ่มีคุณสมบัติบอบช้ำง่าย
หากการบรรจุหีบห่อไม่เหมาะสมผนวกกับการขาดความระมัดระวังในการลำเลียงขนส่ง
จะส่งผลให้ผลผลิตเสียหาย ซึ่งคิดเป็นมูลค่าสูง เป็นการสูญเสียที่น่าเสียดาย
ดังนั้น
ต้องมีการควบคุมคุณภาพของผักผลไม้อย่างจริงจังใช้เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม
และการบรรจุหีบห่อที่ถูกต้อง
ในอดีตกับการบรรจุหีบห่อนั้น
ผู้ส่งออกส่วนใหญ่นิยมใช้เข่งเป็นภาชนะบรรจุและไม่พิถีพิถันในการบรรจุเท่าใดนัก
การขนถ่ายและขนส่งก็ขาดความระมัดระวังที่เพียงพอ ถึงแม้เข่งราคาจะถูก
บรรจุได้มากก็ตามแต่ก็มีข้อเสียคือ ไม่แข็งแรงต่อการเรียงซ้อน
รูปทรงยากลำบากต่อการขนถ่าย สิ้นเปลืองพื้นที่ระวางสินค้า
จึงมีผลให้ผักผลไม้ถูกกดทับเน่าเสียและมีลักษณะไม่ดึงดูดใจผู้ซื้อ
การเลือกใช้ภาชนะบรรจุผักและผลไม้สด
เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการเน่าเสียที่เกิดจากภาชนะบรรจุ
จะต้องศึกษาและพิจารณาข้อมูลต่อไปนี้
1. ข้อมูลด้านการตลาด เช่น ราคา ขนาดบรรจุ คู่แข่งขัน การยอมรับของผู้ซื้อ
ระบบการขนส่ง มาตรฐานที่แนะนำ ฯลฯ
2. ข้อมูลของพืชผลสดเอง เช่น ขนาด คุณภาพ น้ำหนัก อายุการเก็บ อัตราการหายใจ
และคายน้ำ การกำจัดศัตรูพืช ฯลฯ รวมทั้งข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมในวงจรของการขนส่ง
เช่น การตกกระแทก การสั่นสะเทือน การกดทับ สภาพดินฟ้าอากาศ
การออกแบบโครงสร้างของภาชนะบรรจุจะเกี่ยวข้องกับชนิดและคุณสัมบัติของวัสดุที่ใช้
รูปแบบและนิติของภาชนะบรรจุ ช่องระบายอากาศ วิธีการบรรจุผักและผลไม้นั้นด้วย
ตลอดจนวิธีการขนส่งและการเก็บรักษา
ชนิดภาชนะบรรจุสำหรับพืชผลสด
ภาชนะบรรจุสำหรับผักผลไม้สด ที่นิยมใช้กันมากมีดังนี้
1. เข่งไม้ไผ่
เข่งไม้ไผ่เป็นภาชนะบรรจุพื้นบ้านที่ใช้กันแพร่หลายในประเทศ มีที่นิยมใช้กันมากอยู่
2 ประเภทคือ เข่งแบบปากกว้างและสอบเรียวลงไปถึงก้นเข่ง ซึ่งเป็นรูปสี่เหลี่ยม
มีหลายขนาดบรรจุตั้งแต่ 15-30 กิโลกรัม
ใช้บรรจุผลิตผลเกษตรแทบทุกชนิดอีกประเภทคือเข่งรูปทรงกระบอก ใช้บรรจุลำไยเป็นหลัก
มีไม่กี่ขนาด บรรจุตั้งแต่ 15 กิโลกรัมขึ้นไปจนถึง 25 กิโลกรัม
เข่งเหล่านี้สามารถบรรจุผลิตผลได้ทีละมากๆ กันน้ำ และช่วยระบายอากาศได้
แต่เข่งมีลักษณะโครงสร้างที่ไม่แข็งแรง ตัวเข่งไม่สามารถรับแรงกดเมื่อเรียงซ้อนได้
เมื่อเรียงซ้อนน้ำหนักจึงกดทับบนตัวผลิตผลแทน ทำให้ผลิตผลช้ำและเน่าเสียได้ง่าย
นอกจากนี้รูปทรงยังไม่ให้ความสะดวกต่อการขนถ่าย
และไม่สามารถใช้เนื้อที่ของการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. กล่องกระดาษลูกฟูก
กล่องกระดาษลูกฟูกเป็นภาชนะที่นิยมใช้บรรจุผลิตผลเกษตรเพิ่มขึ้นในปัจจุบันทั้งเพื่อการขายภายในประเทศและส่งออก
แบบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันคือ แบบฝากล่องสวมทับตัวกล่อง และแบบธรรมดา
ขนาด, ความจุ และความแข็งแรงแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแบบวัสดุ และโครงสร้างที่ใช้
รวมทั้งตำแหน่งและขนาดของช่องระบายอากาศ
กล่องกระดาษลูกฟูกมีผิวเรียบไม่ทำความเสียหายแต่ผลิตผล
แผ่นลูกฟูกช่วยป้องกันการกระทบกระแทกของผลิตผลได้
การพิมพ์ให้สวยงามเพื่อบอกรายละเอียดต่างๆ และเพื่อดึงดูดความสนใจทำได้ง่าย
หลังใช้แล้วนำกลับเข้าขบวนการผลิตใหม่ได้ แต่ในการใช้ต้องระวังเรื่องความชื้น
ซึ่งจะมีผลทำให้กล่องไม่แข็งแรงเท่าที่ควร การระบายอากาศของกล่องมีน้อย
ยกเว้นบริเวณที่เจาะช่องระบายอากาศ
3. ภาชนะพลาสติก
ภาชนะพลาสติกมีความแข็งแรง ทนทานต่อการวางซ้อนได้ดี ทนต่อความชื้นและเปียกน้ำได้
ผิวภายในเรียบไม่ทำลายผลิตผล สามารถทำความสะอาดได้ง่าย รูปแบบที่ใช้กันมากได้แก่
ตะกร้าพลาสติกพร้อมฝา ลังพลาสติกแบบใช้หมุนเวียน และลังพลาสติกแบบพับได้
4. ภาชนะไม้
ภาชนะไม้มีความแข็งแรงดี ทนทานต่อการวางซ้อนได้ดี
สามารถออกแบบให้ถ่ายเทอากาศได้ตามต้องการ ทนต่อความชื้นและเปียกน้ำได้
แต่ผิวภายในมักจะแข็งและหยาบ ซึ่งอาจทำความเสียหายต่อผลไม้ได้
ไม้ที่นำมาประกอบเป็นภาชนะบรรจุควรเป็นวัสดุที่หาง่าย ราคาถูก และสะดวกต่อการทำงาน
ไม้ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันได้แก่ ไม้ยาง ไม้เนื้ออ่อน
เศษไม้จากลังหรือแท่นรองรับสินค้าจากต่างประเทศ และไม้อัด
ภาชนะไม้ที่ใช้ในประเทศมักทำเป็นลังใช้ตะปูตอกประกอบ นิยมใช้บรรจุมะม่วง มังคุด
ลางสาด ส้ม นอกจากนี้อาจจะทำเป็นลังผสมระหว่างไม้ไผ่สาน
โดยประกบเป็นผนังทุกด้านส่วนโครงทำจากไม้ยาง ใช้บรรจุลำไย และลิ้นจี่
»
ประเภทของภาชนะบรรจุอาหาร
»
การเลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหาร
»
ลักษณะของภาชนะบรรจุอาหาร
»
ประเภทภาชนะบรรจุ (เพื่อการขายปลีก)
»
อาหารสด
»
อาหารแห้ง
»
อาหารแช่แข็ง
»
อาหารที่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยความร้อน
»
อาหารฉายรังสี
»
อาหารหมักดอง
»
อาหารที่มีไขมันสูง
»
อาหารที่มีกลิ่นเฉพาะ
»
อาหารเหลวหรือกึ่งเหลว
»
อาหารบรรจุระบบปลอดเชื้อ
»
การบรรจุผักและผลไม้สดเพื่อการส่งออก