มิลาเรปะ
ท่านมิลาเรปะ กับนกพิราบ
ตามคำพยากรณ์ของเทพผู้เป็นสาวกของพระพุทธองค์ ท่านมิลาเรปะออกเดินทางจากยลโมสู่ทิเบต ท่านมาถึงกูตัง และเข้าพำนักอาศัยในถ้ำ ท่านใช้เวลาส่วนใหญ่เจริญสมาธิโดยมีแสงสว่างอันไม่มีประมาณเป็นอารมณ์แห่งสมาธิ
เช้าวันหนึ่งได้มีนกพิราบตกแต่งด้วยเครื่องประดับสีทองบินมาเกาะใกล้ๆท่าน น้อมศีรษะลงพร้อมทั้งวนไปรอบๆและแสดงความคารวะท่านหลายครั้ง แล้วจึงบินจากไปยังกลุ่มหินผาที่ดูสะอาดตา ท่านมิลาเรปะ หยั่งทราบได้ด้วยญาณวิถีว่าเป็นร่างจำแลงของอมนุษย์ที่มาแสดงการต้อนรับท่าน ท่านจึงได้ติดตามนกพิราบไปบนภูเขา ท่านได้พบเมล็ดข้าวสีขาวสะอาดหลายกอง นกพิราบได้คาบเมล็ดข้าวมาให้ท่านเพื่อแสดงการต้อนรับอันอบอุ่น ท่านมิลาเรปะจึงได้แสดงบทโศลกขึ้นว่า
โอ้ คุรุผู้เต็มไปด้วยความเมตตาของอาตมา ท่าน มาระปะ โล ดรั๊ก วา
อาตมารำลึกถึงท่านจากก้นบึ้งแห่งดวงใจของอาตมา
ด้วยความจริงใจ อาตมาบำเพ็ญสมาธิภาวนา โดยเพ่งสมาธิจิตไปยังท่าน
การสวดภาวนาของอาตมา ก็ไม่เคยได้แยกตัวออกไปจากท่าน
การรวมดวงจิตกับคุรุ เป็นความผาสุกยิ่ง
การประจักษ์แจ้งนั้น โดยตัวของมันเองแล้วก็คือ แก่นสารสาระแห่งความเป็นจริง
โดยอาศัยความรู้แจ้งตระหนักชัดต่อธรรมกายอันไม่มีการก่อเกิดนี้เอง
อาตมาจึงสามารถเข้ารวมเป็นเอกภาพเดียวกับอาณาจักรของความที่ไม่ต้องพักและไม่ต้องเพียร
ไม่ว่าจะเป็นทิฐิความเห็นชั้นสูงหรือชั้นต่ำ มีความแตกต่างสำหรับอาตมาอยู่ฤาหนอ
ในดวงจิตที่ไม่ต้องพักและไม่ต้องเพียร อาตมารู้สึกผาสุกสำราญยิ่งนัก
ธรรมชาติของดวงจิตเป็นความสว่างไสวและว่างเปล่า
ด้วยการรู้แจ้งตระหนักชัดต่อแสงสว่างใสอันว่างเปล่า
อาตมาได้รวมตนเองเข้ากับจิตเดิมแท้ที่ไม่ต้องพักและไม่ต้องเพียร
ประสบการณ์ดีหรือเลวก็ตาม มีความแตกต่างสำหรับอาตมาอยู่ฤาหนอ
ในดวงจิตที่ไม่ต้องพักและไม่ต้องเพียร อาตมารู้สึกผาสุกสำราญยิ่งนัก
ผัสสะทั้งหกทวาร สูญสลายไปด้วยตัวมันเอง
ในที่ซึ่งความปราศจากข้อแตกต่างของผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ ถูกตระหนักชัด
อาตมารวมความสุขและความทุกข์เป็นเอกภาพเดียวกัน
การกระทำที่เป็นกุศลและอกุศล มีความแตกต่างสำหรับอาตมาอยู่ฤาหนอ
ผาสุกจริงหนอ สำหรับดวงจิตที่ไม่ต้องพักและไม่ต้องเพียร
ธรรมชาติอันยิ่งของธรรมกาย ถูกระบุผ่านรูปลักษณะสภาวะทั้งหลายทั้งปวง
รูปลักษณะสภาวะทั้งหลายทั้งปวง ก็คือนิรมานกายแห่งพุทธะ
ด้วยความเข้าใจเช่นนี้ในดวงจิต
ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์หรือสิ่งแวดล้อมเช่นใดที่อาตมาต้องเผชิญ
อาตมาย่อมเป็นอิสระอยู่ในอาณาจักรแห่งความหลุดพ้น
เพื่อกลับคืนสู่เรือนรังแห่งพุทธะ
อาตมาปราศจากตัณหาโดยสิ้นเชิง
ผาสุกจริงหนอ สำหรับดวงจิตที่ไม่ต้องพักและไม่ต้องเพียร
ณ ที่นั้นเอง นกพิราบและเพื่อนของมันอีกเจ็ดตัว ได้เข้ามาใกล้ท่านมิลาเรปะ ได้คำนับแล้ววนไปรอบๆท่านหลายครั้ง เหมือนที่นกตัวแรกแสดงออกก่อนหน้านี้ ท่านมิลาเรปะนึกคิดขึ้นว่า บรรดานกพิราบเหล่านี้เป็นอมนุษย์ อาตมาจะทดลองซักถามดู ว่าจะพูดความจริงหรือไม่ ท่านได้ถามว่า พวกเธอเป็นใคร และมาที่นี่ทำไม? นกพิราบพากันกลับคืนร่างเป็นเทพธิดา หัวหน้าเทพธิดาได้กล่าวขึ้นว่า พวกเราเป็นเทพธิดาพรหมจรรย์แห่งสรวงสวรรค์ เรามีความศรัทธาในตัวท่าน เรามาที่นี่เพื่อเรียนพระธรรมคำสอนจากท่าน เราขอนิมนต์ให้พระคุณเจ้าได้โปรดแนะนำต่อพวกเราด้วย ท่านมิลาเรปะสนองตอบด้วยการแสดงบทโศลกว่า
โอ้ ร่างจำแลงอันมหัศจรรย์ยิ่งแห่งคุรุของอาตมา
จงได้สวดอวยพรชัยให้อาตมาด้วยกระแสคลื่นอันยิ่งใหญ่แห่งความเมตตาของท่าน
แม่เทพธิดาพรหมจรรย์ทั้งแปดแห่งสรวงสวรรค์
ผู้มาปรากฏในเรือนร่างของนกพิราบ
มนต์คาถาของพวกเธอนับว่าวิเศษ และสอดคล้องกับพระธรรม
ถ้าพวกเธอปรารถนาจะปฏิบัติธรรมของพระพุทธองค์
จงได้ตั้งใจสดับรับฟังความหมายแห่งบทโศลกต่อไปนี้
แม้ว่าความสุขสำราญทั้งหลายบนโลกภพนี้จะดูเป็นสิ่งที่น่ายินดียิ่งนัก
ไม่ช้าไม่นานมันก็จะจืดจางลงและอันตรธานไปในที่สุด
แม้ว่าสตรีผู้สูงศักดิ์ จะปลาบปลื้มใจในความโอ่อ่าอัครฐานของเธอปานใดก็ตาม
เธอก็หาได้มีสรณะที่พึ่งอันปลอดภัยไม่
การดำรงอยู่ในสังสารวัฏอันทุกข์ทรมานนั้น
บางครั้งก็ดูเหมือนว่าจะมีความรื่นเริงบันเทิงใจอยู่บ้าง
แต่โดยส่วนใหญ่แล้วมันหนาแน่นไปด้วยความน่าสะพรึงกลัว
ถ้าบุตรหลานปราศจากความเคารพยำเกรงและไม่รู้จักการช่วยเหลือตนเอง
ผู้เป็นบิดาย่อมได้รับความเดือดเนื้อร้อนใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ถ้าบรรดาสาวกยังไม่ละเลิกประกอบอกุศลกรรม ถึงแม้ว่าจะมีศาสดาที่ยอดเยี่ยมปานใดก็ตาม
เขาย่อมไม่อาจรอดพ้นจากการตกจมลงสู่ก้นบึ้งแห่งสังสารวัฏโดยแน่นอน
แม่เทพธิดาพรหมจรรย์ทั้งแปดจากสรวงสวรรค์ ผู้จำแลงกายมาเป็นนกพิราบ
มันง่ายมากที่ผู้คนจะรับฟังพระธรรมเทศนา
แต่มันยากหนักหนาที่จะปฏิบัติบำเพ็ญตามด้วยความซื่อตรง
จงได้เฝ้าเตือนตนเองอยู่เสมอว่าความทุกข์ระทมทั้งหลายในโลกนี้นั้น
ล้วนมีมูลเหตุมาจากความสุขสำราญทั้งสิ้น
เธอจงต้อนรับความทุกข์ยากของชีวิตประดุจมันเป็นกัลยาณมิตรของเธอทีเดียว
เพราะมันจะเป็นคุรุผู้นำพาเธอไปสู่สภาพที่ยิ่งกว่าสุขแห่งพระนิพพาน
สำหรับอาตมา ความเคราะห์ร้ายที่ต้องเผชิญ เป็นสิ่งน่ายินดีเสมอ
โอ้ ผองเพื่อนทั้งหลายของอาตมา จงจดจำถ้อยคำเหล่านี้ไว้ในดวงใจ
และปฏิบัติเช่นเดียวกับอาตมา
เทพธิดาพากันแย้มยิ้ม และกล่าวแก่ท่านมิลาเรปะว่า พวกเราจะปฏิบัติตามนั้น จากนั้นได้พากันน้อมคารวะท่านหลายครั้ง ท่านมิลาเรปะได้กล่าวถามขึ้นว่า ทำไมจึงมาปรากฏ ณ สถานที่นี้ ในรูปจำแลงของนกพิราบ เทพธิดาพากันตอบว่า ท่านเป็นนักบวชที่ปราศจากความยึดมั่นทั้งในตนเองและในโลกธรรมทั้งปวง ท่านมุ่งมั่นแต่การแสวงหาพระโพธิญาณ เพื่ออนุเคราะห์สรรพชีวิตทั้งปวง ท่านจึงมาพำนักอยู่ในสถานที่อันสงบสงัดและปราศจากสิ่งรบกวน ด้วยทิพย์จักษุของพวกเรา เราจึงสามารถเห็นความเป็นไปของท่านได้ ด้วยความเคารพศรัทธา เราจึงมาพบท่านเพื่อฟังธรรม เราจำแลงเป็นนกพิราบเพื่อปกปิดวิบากแห่งกรรม พวกเราหวังว่าท่านจะร่วมเดินทางไปสวรรค์กับพวกเรา เพื่อสอนธรรมที่ถูกต้องให้แก่พวกเรา ณ ที่นั้น ท่านมิลาเรปะได้ชี้แจงว่า ตราบจนกว่าชีวิตจะจบสิ้นลง อาตมาจะดำรงอยู่ในโลกภพนี้ เพื่อประโยชน์สุขแก่สรรพชีวิต พวกเธอต้องรู้ไว้ด้วยว่า สวรรค์ไกลเกินไปสำหรับสัมพันธภาพอันอิงอาศัยกัน มันไม่ได้เป็นภพที่อมตะ และบุคคลไม่ควรพึ่งพามัน การบังเกิดในสรวงสวรรค์ไม่ใช่สิ่งมหัศจรรย์ที่จำเป็นแต่อย่างใด พวกเธอควรได้ตั้งใจสดับข้อแนะนำดังต่อไปนี้ให้จงดี
อาตมาขอน้อมเศียรเกล้ากราบลง ณ เบื้องบาทของท่านอาจารย์มาระปะ โล ดรั๊ค
โอ้ พระบิดาผู้เป็นอาจารย์ ได้โปรดอวยพรชัยให้อาตมาด้วยความเมตตาและความตรัสรู้ของท่าน
พวกเธอ แม่เทพธิดาผู้งดงามทั้งแปดแห่งสรวงสวรรค์
ได้บริจาคข้าวขาวสะอาด อันเป็นอาหารที่วิเศษต่อญาณทัสสนะ
ด้วยการบริโภคมันเข้าไป ร่างกายของอาตมาย่อมแข็งแรงขึ้น จิตใจของอาตมาย่อมแจ่มใส
เพื่อเป็นของกำนัลตอบแทนจากอาตมา อาตมาจักได้แสดงธรรมคีตาแก่พวกเธอ
ณ บัดนี้ จงได้สดับรับฟังอย่างตั้งใจ
แม้ว่าบุคคลจะได้สถิตอยู่ในสวรรค์ชั้นสูงสุด
มันก็หาได้มีคุณค่าในความหมายแห่งความจีรังยั่งยืนแต่อย่างไร
ความรักและสัมผัสอันละมุนละไม เป็นดังทิพยมาลีจากทวยเทพแห่งสรวงสวรรค์
แต่จุดหมายปลายทางของความสุขสำราญนั้น สิ้นสุดลงที่การต้องพลัดพรากจากมันเสมอ
แม้ความสุขอันประณีตในวิมาน จะวิเศษพิสดารเพียงใดก็ตาม
มันก็เป็นเพียงภาพลวงตาซึ่งทำให้งงงันประดุจความฝัน
โดยแท้ที่จริงแล้ว มันเป็นเพียงสาเหตุที่ทำให้เวียนกลับไปสู่ความทุกข์ทรมาน เท่านั้นเอง
เมื่อระลึกถึงความน่าสะพรึงกลัวของภพภูมิอันต่ำทรามทั้งหกแห่งสังสารวัฏ
อาตมาช่วยเหลืออะไรไม่ได้ นอกจากรู้สึกหน่ายคลายและสังเวชสลดใจกับมันเสมอมา
พวกเธอตั้งใจจะปฏิบัติตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์จริงๆหรือ?
พวกเธอสมควรที่จักถือเอาพระรัตนตรัยเป็นสรณะที่พึ่งอันเกษมสำหรับพวกเธอ
สรรพสัตว์ในภพภูมิทั้งหก ล้วนมีสัมพันธภาพอย่างสมบูรณ์ดุจบิดามารดาของเธอ
จงได้บริจาคให้แก่ผู้ที่ยากไร้ และจงได้เอื้อเฟื้อต่อวิสุทธิบุคคล
จงได้ระลึกไว้เสมอว่ามรณกาลอาจมาเยือนได้ทุกเวลา
จงทำเรือนกายของเธอให้เป็นวิหารแห่งพุทธะ
วจีกรรมของเธอจงได้พร่ำสาธยายแต่พระธรรมคำสอน
จงเพ่งพิจารณาให้มากถึงสุญตภาวะ อันเป็นผลมาจากปรีชาญาณขั้นสูงสุด
จงพยายามเป็นนายเหนือดวงจิตของเธอให้จงได้
เทพธิดากล่าวว่า ผู้ที่โง่เขลาเช่นพวกเรา ย่อมถูกกิเลสครอบงำเสมอ ได้โปรดแนะนำพวกเราให้พ้นจากความผิดพลาดนี้ด้วยเถิด เราจะพากเพียรปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ท่านมิลาเรปะสนองตอบด้วยบทโศลกที่ว่า
ขอน้อมคารวะท่านอาจารย์มาระปะผู้เปี่ยมด้วยเมตตา
โปรดอวยพรชัยให้อาตมา ด้วยธรรมโอสถแห่งความบริสุทธิ์ด้วยเถิด
โอ้ แม่เทพธิดาผู้เปี่ยมด้วยศรัทธา เธอตั้งใจจะปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่องจริงๆหรือ
เธอจักต้องบำเพ็ญสมถะและวิปัสสนาในภายใน
การละเลิกจากโลกียกรรมภายนอกทั้งปวงโดยเด็ดขาด คือเครื่องประดับอันสง่างามของเธอ
สัมมาสมาธิย่อมก่อปิติปราโมทย์แก่เธอเสมอ
การสำรวมอินทรีย์ในไตรทวาร ทำให้เกิดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม
เมื่อความขัดเคืองใดๆปรากฎขึ้นในมโนทวารของเธอ
จงได้เตือนตนเองโดยไม่ประมาทว่าอันตรายจากโทสะกำลังมาเยือน
เมื่อเกิดความเปลี่ยนแปลงต่อโลกียทรัพย์ของเธอ
จงได้เตือนตนเองโดยไม่ประมาทว่าอันตรายจากโลภะกำลังย่างกรายเข้ามา
เมื่อคำพูดส่อเสียดอันเต็มไปด้วยความดูหมิ่นเหยียดหยามผ่านเข้ามาสู่โสตประสาทของเธอ
จงเฝ้าเตือนตนเองโดยไม่ประมาทว่าถ้อยคำเหล่านั้นมีความหมายเป็นเพียงเสียงเท่านั้น
เมื่อเธออยู่ร่วมกับบรรดามิตรสหายของเธอ
จงเฝ้าเตือนตนเองโดยไม่ประมาทว่าความริษยาจงอย่าได้ปรากฎขึ้นในดวงใจเลย
เมื่อเธอบริจาคทาน จงเตือนตนเองโดยไม่ประมาทว่า
ความหยิ่งผยองลำพองตนอย่าได้อุบติขึ้นมาเลย
ในทุกกาลเวลาและสถานที่ จงเฝ้าสอบความคิดและตรวจตราดวงจิตของตนเองอยู่เสมอ
และพากเพียรขจัดความชั่วร้ายให้สูญสิ้นไปจากดวงใจ
บรรดาสรรพสิ่งที่เธอได้สัมผัสพบเห็นในชีวิตประจำวันของเธออยู่เสมอนั้น
ล้วนมีธรรมชาติอันว่างเปล่าไร้ตัวตนของมันเองและเป็นเพียงมายา
แม้บัณฑิตและนักศึกษาผู้คงแก่เรียนนับร้อย จะมารวมกันในสถานที่แห่งนี้
ก็ไม่อาจกล่าวแสดงได้มากไปกว่านี้
ขอให้พวกเธอจงผาสุกและรุ่งเรืองไพบูลย์ในธรรมวินัยของพระพุทธองค์
และจงได้อุทิศตนให้แก่การปฏิบัติธรรมด้วยความแช่มชื่นเบิกบานทุกๆคน
เทพธิดาต่างพากันรื่นเริงในธรรมโดยถ้วนหน้ากัน ได้พากันจำแลงกายกลับเป็นนกพิราบอีกครั้งหนึ่ง ด้วยความเบิกบานใจ และบินสู่สรวงสวรรค์ต่อหน้าท่านมิลาเรปะ จากนั้นท่าน มิลาเรปะได้นั่งลงฉันท์ข้าวขาวสะอาด และเตรียมจาริกธุดงค์ต่อไปยังหุบเขาวัชชระสีเทา
เกี่ยวกับท่านมิลาเรปะ
ตำนานแห่งหุบเขาอัญมณีแดง
การจาริกธุดงค์สู่ ลาชิ
ธรรมลีลาแห่งเทศกาลหิมะโปรย
วิวาทะกับเจ้าแม่ผู้ชาญฉลาด
มณฑล รักม่า
วิหารเทียมฟ้า จันแพน
ธรรมปิติของสมณะ
ท่านมิลาเรปะ กับนกพิราบ
หุบเขา วัชชระ สีเทา
ภิกษุ เรชุงปะ
ข้อตักเตือนถึงโอกาสที่หาได้ยากในการปฏิบัติธรรม
การค้นหาธรรมชาติแห่งจิตของชายเลี้ยงแกะ
ธรรมคีตาแห่งความตระหนักชัด
การมุ่งสู่โพธิญาณของสตรีเพศ
ธรรมคีตา ณ ที่พักผู้เดินทาง
พาลชนที่กลายเป็นสาวก
การพบกันที่สายธารสีเงินยวง
นิมิตหมายแห่งพระธรรมจากไม้เท้า
ข้อชี้นำยี่สิบเอ็ดประการ
ภิกษุ กาชอนเรปะ
คำตักเตือนสำหรับท่าน ธัมมะวอนชู
การแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ ณ ภูเขาหิมะดีซี
การบรรลุธรรมจักษุของท่าน เรชุงปะ
การกลับใจของชาวลัทธิ บอน ผู้กำลังจะตาย
แสดงธรรมกับหญิงสาวผู้ชาญฉลาด
นายพรานกับกวาง
พระราชาแห่ง เนปาล
เผชิญเจ้าแม่ ทเซรินมา
การกลับใจของเจ้าแม่ ทะเซรินมา
ข้อแนะนำเกี่ยวกับภาวะ สัมภเวสี
ทะเซรินมา กับการปฏิบัติสุญญตาธรรม
ข้อตักเตือนสำหรับท่าน ดอจี วอนชู
การพบกับท่าน ธรรมโพธิ
เผชิญนักปริยัติ
เยือนอินเดียครั้งที่สามของท่าน เรชุงปะ
ความตระหนักชัดของท่าน เมกอมเรปะ
สาลีอุยกับพระธรรม
เขาของตัวจามรี
การสำนึกผิดของ เรชุงปะ
ความที่ยิ่งกว่าสุข
ศิษย์เอก กัมโบปะ
นักปริยัติผู้กลับใจ
ธรรมปราโมทย์
แสดงอภิญญาจูงใจคน
รวมโศลกธรรมสั้นๆ
ธรรมเทศนาที่ภูผา บอนโบ้
แรงบันดาลใจ
ชินดอโมและเลซีบุม
แกะที่กำลังจะตาย
ธรรมคีตาแห่งการดื่ม
แด่ เรชุงปะ ด้วยเมตตา
เรชุงปะ สู่เมือง วู
พบท่าน ธัมปาสันจี
มิติแห่งสวรรค์
คำพยากรณ์แห่งเทพธิดา
คำตักเตือนคุณหมอ ยางงี
การจากไปของ เรชุงปะ
เรื่องราวของ ดราชิเซ
กัลยาณมิตร
ประจักษ์พยานแห่งการบรรลุธรรม
ปัจฉิมโอวาท