ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ บุคคลสำคัญ ประเทศและทวีป >>
พระราชพงศาวดารเหนือ
พระราชพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐ
ศิลาจารึก
พงศาวดารเขมร
พงศาวดารมอญพม่า
พงศาวดารล้านช้าง
พงศาวดารล้านช้าง
หน้า 2
เมื่อขุนทั้งสองลงมาสร้างบ้านสร้างเมืองได้ไม่มาก
ขุนเด็กขุนด่านจึงขึ้นไปไหว้พระยาแถน ๆ จึงเอาขุนทั้งสองกลับไป
พระยาแถนจึงให้ท้าวผู้มีบุญชื่อ ขุนบูลม มหาราชาธิราช (บรมมหาราชาธิราช) ขุนบูลม ๆ จึงผู้คนมาอยู่ที่นาน้อยอ้อยหนู ผู้ที่ออกมาจากน้ำเต้านั้น ผู้ที่รู้หลักนักปราชญ์ ก็มาเป็นบ่างไพร่ขุนบูลม ฯ ส่วนผู้ที่เหลือก็อยู่เป็นไพร่ทำไร่ทำนา ขุนบูลม ฯ ก็เจรจากับเจ้าขุนทั้งหลาย ที่มาพร้อมกับตนว่า ต่อจากนี้ไปเราจะทำอะไรแก่คนทั้งหลายให้รู้จักหากิน พระยาแถน จึงให้แถนแต่ง และพิศณุกรรม ลงมาบอกการงานแก่มนุษย์ แถนแต่งให้ทำไร่นา ปลูกข้าว ปลูกผัก ลูกไม้ลูกมัน รู้จักทอผ้า และรู้จักใช้เครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ แถนจึงสั่งสอนขุนบูลมว่า ไทยควางให้ออกหาขุนควาง ไทยวีให้ออกหาขุนวี ไทยเลิงให้ออกหาขุนเลิง ไทยเลนให้ออกหาขุนเลน ไทยลอให้ออกหาขุนลอ แล้วสอนขนบธรรมเนียมต่าง ๆ ให้ประพฤติปฏิบัติ
พระยาแถน จึงสั่งว่าต่อจากนี้ไปอย่าให้มนุษย์ขึ้นไปหาพระยาแถนอีก และพระยาแถนก็จะไม่ลงไปหามนุษย์อีก ตั้งแต่นั้นผีและคนก็ไปมาหากันไม่ได้อีก
ท้าวบูลม มีลูกชายเจ็ดคนกับนางแอกแดง คนโตชื่อ ชุนลอ คนที่สองชื่อยี่ผาลาน คนที่สามชื่อสามจูสง มีลูกกับนางยมพาลาสามคน คนโตชื่อไสผง คนต่อมาชื่องัวอิน คนที่สามชื่อลกกลม ขุนบูลมเห็นว่าลูกเจริญวัยแล้ว มีความรู้ที่จะไปสร้างเมืองได้ให้กว้างขวางออกไป แล้วก็ให้เครื่องมือ อาวุธ และแก้วแหวน แก่ลูกของตนออกไปสร้างบ้านเมืองในที่ไกลออกไป ขุนลอให้ไปสร้างเมืองชวา ยี่ผาลานให้ไปสร้างเมืองหัวแต สามจูสงให้ไปสร้างเมืองแกวช่องบัว ไสผงให้ไปสร้างเมืองยวนโยนก งัวอินไปสร้างเมืองชาวใต้อโยทธยา ลูกกลมให้ไปสร้างเมืองเชียงคม ยอสามเจ็ดเจิงให้ไปสร้างเมืองพวน แล้วขุนบูลมก็สั่งสอนบุตรสำหรับให้ประพฤติปฏิบัติในภายภาคหน้า อย่าให้ทำร้ายเบียดเบียนกัน
อยู่มาไม่นานขุนบอลมก็ถึงอนิจกรรม จากนั้นนางแอกแดงกับนางยมพาลาก็ตายตามไป บรรดาบุตรทั้งหลาย เมื่อทำการศพพ่อแม่เสร็จแล้ว ก็ได้ให้ปฏิญาณแก่กันว่า ต่อไปภายหน้าเราพี่น้อง ไปสร้างบ้านสร้างเมืองที่พ่อแม่แบ่งให้มานั้น ให้หมั่นส่งข่าวสารเป็นมิตรไมตรีต่อกัน อยาได้ขาดตามที่พ่อแม่สั่งเสียไว้
ทั้งเจ็ดคนก็แยกย้ายกันไป ขุนลอพารี้พลล่อมาทางน้ำฮวดน้ำฮู มาถึงน้ำของ ขอนผาติงสบอูแล้วตั้งทัพจอดอยู่ ณ ที่นั้นก่อน เนชวาผู้เป็ใหญ่ในเมืองชวาแต่ก่อน ขุนชวาตายแล้วก็ไว้เมืองแก่ยีบาผู้ลูก ยีบาตายไว้เมืองแก่วิริยาผู้ลูก วิริยาตายไว้เมืองแก่อ้ายกันฮางผู้ลูก ขุนกันฮางมีลูกชื่อลูกลิง ๆ มีลูกชื่อระวัง ขุนระวังมีลูกชื่อยีผง เมื่ออ้ายกันฮางเป็นขุนอยู่เมืองชวา ลูกหลานเหลนก็ยังอยู่ สามคนพ่อลูกปู่หลาน ก็ยังเป็นขุนนางใหญ่อยู่กินเมืองชวานั้น เมื่อขุนลอล่องมาน้ำฮวดน้ำของ ก็ได้รบกับเมืองชวา เมืองชวาแพ้ ขุนลอจึงตั้งเมืองเป็นท้าวเป็นพระยาแก่ลาวทั้งหลาย ก่อนท้าวพระยาลาวทั้งปวง
ขุนลอมีลูกชายชื่อว่าขุนชวา เมื่อขุนลอตายก็ไว้เมืองแก่ขุนชวา ขุนชวามีลูกชื่อชวาเลา ๆ มีลูกชื่อขุนสูง ขุนชวาตายไว้เมืองแก่ขุนสูง มีลูกชื่อขุนเด็ก เมื่อขุนสูงตาย ก็ไว้เมืองแก่ขุนเด็ก ๆ มีลูกชื่อขุนคุมา ๆ มีลูกชื่อขุนคีม ๆ มีลูกชื่อขุนคัว เมื่อขุนคีมตายก็ไว้เมืองแก่ขุนคัว ๆ มีลูกชื่อขุนคาน เมื่อขุนคัวตายก็ไว้เมืองแก่ขุนคาน ๆ มีลูกชื่อขุนแพง ๆ มีลูกชื่อขุนเพ็ง ๆ มีลูกชื่อขุนพี ๆ มีลูกชื่อขุนคำ ๆ มีลูกชื่อขุนฮง จากขุนลอถึงขุนฮุงนับได้สิบห้าขุน ต่อจากนั้น ราชา เรียกว่าท้าว เมื่อขุนคำตายก็ไว้เมืองแก่ขุนฮุง เมื่อขุนฮุงกินเมืองนั้นไม่อยู่ในบุราณจารีต ขุนฮุงมีลูกชื่อท้าวแทนโม ขุนฮุงตายก็ไว้เมืองแก่ท้าวแทนโม ท้าวแทนมีลูกชายชื่อท้าวยุง ๆ มีลูกชายชื่อท้าวพิณ ๆ มีลูกชายชื่อท้าวผาด ๆ มีลูกชายท้าวหว่าง ท้าวผาดตายก็ไว้เมืองแก่ท้าวหว่าง
แต่เดิมราชาเรียกว่าท้าว ต่อมาถึงท้าวหว่าง ต่อไปจากนี้ราชาเรียกว่าพระยา ท้าวหว่างมีลูกชายชื่อท้าวลัง เมื่อท้าวหว่างตายไว้เมืองแก่ท้าวลัง จึงขึ้นชื่อว่า พระยาลัง แต่นั้นมา พระยาลังมีลูกชายชื่อคำผง เมื่อพระยาลังกินเมืองนั้น ก็ไม่ได้ประพฤติชอบธรรมตามบุราณจารีต พวกชาวเมืองจึงปลดพระยาลัง แล้วเอาท้าวคำผงผู้เป็นลูกขึ้นแทน ให้ชื่อว่า พระยาคำผง เมื่อพระยาคำผงมีลูกชายจะให้ตั้งชื่อ จึงให้ไปถามพระยาลังผู้เป็นปู่ พระยาลังก็ไม่เอ่ยปาก จึงถามซ้ำ พระยาลังจึงกล่าวคำว่าผีฟ้า คนทั้งปวงก็เรียกกุมารว่าผีฟ้า เมื่อท้าวผีฟ้าเจริญวัย มีลูกชายหกคน ชื่อว่าฟ้างุ้ม ฟ้าเงี้ยว ฟ้ายาม คานคำ ฟ้าก่ำ และฟ้าเขียว
ท้าวผีฟ้าเล่นชู้กับนางสนมของพ่อของตน พระยาคำผงจึงขับออกจากเมืองลาว จึงไม่ได้เป็นพระยาแทนพ่อ