ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม อารยธรรม >>
สาเหตุที่มนุษย์มีการแต่งกายแตกต่างกัน
การแต่งกายไทยตามสมัยประวัติศาสตร์และโบราณคดี
การแต่งกายสมัยรัตนโกสินทร์
การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของการใช้เสื้อผ้าในแต่ละยุคสมัย
การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของการใช้เครื่องประดับในแต่ละยุคสมัย
การแต่งกายของชาวเขาในประเทศไทย
การแต่งกายชาวเอเซีย
การแต่งกายชาวตะวันออกกลางและยุโรป
การแต่งกายของยุโรปตอนเหนือ
แนวความคิดในการออกแบบเครืองแต่งกายจากสมัยต่าง ๆ
การแต่งกายสมัยรัตนโกสินทร์
การแต่งกายสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
(รัชกาลที่ 6) พ.ศ. 2543 พ.ศ. 2468 ระยะ 15 ปี
หญิง
ผม ไว้ผมยาวเสมอต้นคอ ตัดเป็นลอน หรือเรียกว่า ผมบ๊อบ คือตัดสั้น ระดับในหูตอนล่าง
สองข้างยาวเท่ากัน นิยมดัดข้างหลังให้โค้งเข้าหาต้นคอเล็กน้อย หรือตัดสั้น แบบ ทรงซิงเกิ้ล
ลักษณะตัดสั้น คล้ายผมป๊อบผิดกับตรงด้านหลังผมซิงเกิ้ลซอยด้านหลังให้ลาดเฉียงลงแนบต้นคอ
ใช้เครื่องประดับคาดรอบศีรษะ ตอนปลายรัชกาลไว้ผมยาว และเกล้ามวยแบบตะวันตก
เครื่องประดับ นิยมสร้อยไข่มุก ต่างหูห้อยระย้า เพื่อให้เข้าชุดกับเครื่องแต่งกาย
เครื่องแต่งกาย ตอนแรกนิยมนุ่งผ้าโจงกระเบนผ้าม่วง สวมเสื้อผ่าอก คอลึก แขนยาว
เสมอข้อศอก สะพายแพรบาง ๆ ต่อมาเริ่มนุ่งซิ่นตามพระราชนิยม สวมเสื้อผ้าแพรโปร่งบางหรือ
ผ้าพิมพ์ดอก คอเสื้อกว้างขึ้น อีก และแขนเสื้อสั้น ประมาณต้นแขน ไม่มีการสะพายแพร
ชาย
ผม ผมยาวกว่าเดิม ตัดแบบยุโรป หวีผมเรียบไม่ค่อยสวมหมวก
การแต่งกาย ยังคงนุ่งผ้าม่วงโจงกระเบน สวมเสื้อราชปะแตน เพิ่มเสื้อครุยแขนยาว
จรดข้อมือ ตัดเสื้อยาวคลุมเข่าสวมทับอีกที เริ่มนุ่งกางเกงแบบฝรั่งในระยะหลัง ประชาชน
ธรรมดามักนุ่งกางเกงแพรของจีน สวมเสื้อคอกลมผ้าขาวบาง
ข้อสังเกตในการแต่งกายของสตรีในรัชกาลนี้คือ การไว้ผมยาว ในที่นี้หมายถึงการเลิกไว้
ผมปีกหรือทรงดอกกระทุ่ม และนิยมคาดศีรษะด้วยผ้าหรือไข่มุก แล้วเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งคือ
นุ่งซิ่น เพราะต่างกับรัชกาลอื่น
การแต่งกายสมัยรัชกาลที่ 6
รัชกาลที่ 4 พ.ศ. 2394 2411 ระยะ 17 ปี
สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
กลางสมัยรัชกาลที่ 5
ปลายรัชกาลที่ 5
สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
สมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
สมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
สมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน
เครื่องแต่งกายสำหรับงานพระราชพิธีหรือรัฐพิธี